top of page

#แปะโรงสี กับตำนาน #วัดศาลเจ้า

  • Writer: สมเกียรติ์ ศรีพธูราษฎร์
    สมเกียรติ์ ศรีพธูราษฎร์
  • Apr 4, 2020
  • 1 min read

🔴วัดศาลเจ้า สร้างเมื่อปลายกรุงศรีอยุธยา เมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๓๓๐ โดยเจ้าน้อยมหาพรหม บุตรเจ้าเมืองฝ่ายเหนือ เป็นผู้มีวิชาไสยศาสตร์แก่กล้า ได้ล่องแพมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา

.

เจ้าน้อยมหาพรหมเป็นคนมีวิชาเข้มขลัง โดยเฉพาะการกำราบสัตว์ร้ายให้เชื่อง รวมไปถึงรักษาโรคภัยไข้เจ็บ สมัยนั้นเจ้าน้อยมหาพรหมลองวิชาอาคมโดยล่องมาตามลำน้ำ ชนะผู้มีวิชาดีมาหลายต่อหลายท่านทั้งพระและฆราวาส จนมาถึงวัดศาลเจ้า เจ้าน้อยมหาพรหมได้สงเคราะห์ขาวบ้านด้วยการสะกดจรเข้ที่ดุร้ายให้เชื่อง จากนั้นก็แสวงหาคนมีวิชาเพื่อลองของ เจ้าน้อยมหาพรหมได้พบกับพระอาจารย์รุเกจิชาวมอญ ปฐมเจ้าอาวาสวัดศาลเจ้าก็ขอลองวิชา


พระอาจารย์รุแสดงวิชาหลายอย่างเช่นเสกใบมะขามเป็นตัวต่อตัวแตน ถากขาออกมาเป็นดุ้นฟืน จนเจ้าน้อยมหาพรหมยอมแพ้และนับถือเป็นครูบาอาจารย์และ ไม่กลับขึ้นเหนือไปยังบ้านเมืองของตน แต่ขอฝากตนเป็นศิษย์พระอาจารย์รุ เจ้าน้อยมหาพรหม จึงขอสร้างวัดและศาลขึ้นตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจ แล้วตั้งชื่อว่าวัดศาลเจ้า คาดว่ามาจาก “ศาล” ที่สร้างขึ้นโดย “เจ้า”น้อยมหาพรม

.

จนเจ้าน้อยมหาพรหมสิ้นชีพิตักษัย พระอาจารย์รุจึงเริ่มสร้างเจว็ดเจ้าที่เป็นรูปกษัตริย์ประทับยืนถือพระขรรค์ ศิลปะเชิงช่างแบบมอญ นี่คือจุดกำเนิดเริ่มแรกของศาลศักดิ์สิทธิ์แห่งวัดศาลเจ้า จนมาถึงวัดมะขามใน


⭕️ เซียนแป๊ะโค้ว หรือ “เซียนเอี้ยะฮง” แห่งโรงเจหัวตะเข้ ตลาดลาดกระบัง ซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วงรัชกาลที่ ๔-๕ ท่านบำเพ็ญเพียรจนถึงขั้นพระโพธิสัตว์ โดยนั่งละสังขารและร่างกายไม่เน่าเปื่อย . อาจารย์โง้ว กิมโคย หรือ “เซียนแปะโรงสี” ฆราวาสจอมขมังเวทย์ที่ชาวไทยเชื้อสายจีนแถวเยาวราช เกิดที่ประเทศจีน ตำบลเท้งไฮ้ ได้เข้ามาประเทศไทยตั้งแต่เด็กอายุประมาณ ๑๐ปี เมื่อเติบโตพอที่จะประกอบอาชีพได้ ก็ได้รับจ้างทั่วไปรวมทั้งค้าข้าวเปลือก กิจการค้าข้าวเปลือกดีขึ้น จึงได้ร่วมหุ้นทำกิจการโรงสีข้าวที่ปากคลองบางโพธิ์ล่าง ปัจจุบันเป็นต.บางเดื่อ จ.ปทุมธานี

. ในยุคนั้นหน้าวัดศาลเจ้า ริมแม่น้ำเจ้าพระยา กระแสน้ำเชี่ยวและเป็นวังวนมีศาลเจ้าไม้เล็กๆ อยู่ (ตามประวัติศาลเจ้าพ่อวัดศาลเจ้า) ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “ศาลเจ้าพ่อปู่” ชาวจีนเรียกว่า “ปึงเถ่ากงม่า” เมื่อท่านมีเวลาจะมาบูรณะและคลุกคลีอยู่ที่ศาลเจ้าเป็นประจำ เนื่องจากท่านเป็นคนชอบช่วยเหลือคน ชอบทักทาย และชี้แนะให้ทุกคนประกอบแต่ความดี เป็นที่เคารพและศรัทธาของผู้คนทั่วไปและชาวเมืองปทุมธานีให้ความเคารพท่านอย่างสูงยิ่ง ท่านมีลูกศิษย์มากมายโดยเฉพาะในหมู่พ่อค้า บรรดาผู้คนจากที่ต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศพากันมาหาท่านเพื่อขอคำชี้แนะเกี่ยวกับ”ฮวงจุ้ย”และทำเลที่ตั้ง โดยผู้ที่ท่านชี้แนะจะประสบความสำเร็จ กิจการรุ่งเรือง และเป็นที่รู้จักในวงการค้า


เชื่อกันว่าท่านมีองค์ประทับอยู่ซึ่งก็คือเจ้าพ่อปู่ของศาลเจ้าพ่อ วัดศาลเจ้า ปทุมธานี โดยในงานประจำปีท่านจะจุดธูปเพื่อปัดเป่าลมฝน ปรากฏว่าฝนจะไม่ตกและท้องฟ้าแจ่มใส อาจารย์โง้ว กิมโคย มียันต์ประจำตัวคือ “ยันต์ฟ้าประทานพร” กล่าวกันว่า ผู้ใดพกพา หรือติดตั้งอยู่ในสถานที่ใดจะพบแต่ความเจริญรุ่งเรือง นำพาโชคลาภเงินทอง รวมถึงสามารถใช้แก้ฮวงจุ้ยเสริมดวง นอกจากนี้ยังขึ้นชื่อทางด้านกันไฟและสิ่งไม่ดีทุกชนิด

.

ในยุคนั้นหน้าวัดศาลเจ้า ริมแม่น้ำเจ้าพระยา กระแสน้ำเชี่ยวและเป็นวังวนมีศาลเจ้าไม้เล็กๆ อยู่ (ตามประวัติศาลเจ้าพ่อวัดศาลเจ้า) ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “ศาลเจ้าพ่อปู่” ชาวจีนเรียกว่า “ปึงเถ่ากงม่า” เมื่อท่านมีเวลาจะมาบูรณะและคลุกคลีอยู่ที่ศาลเจ้าเป็นประจำ เนื่องจากท่านเป็นคนชอบช่วยเหลือคน ชอบทักทาย และชี้แนะให้ทุกคนประกอบแต่ความดี เป็นที่เคารพและศรัทธาของผู้คนทั่วไป

.

ทุกวันนี้ “เจียง่วย ชิวโหงว ถึง เจียง่วย ชิวโป๊ย” เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปของศิษย์และชาวบ้านชาววัดศาลเจ้าใกล้เคียงที่ยังคงระลึกถึงท่าน จะพร้อมใจกันมานมัสการท่านพร้อมทั้งมาร่วมงานประจำปี ซึ่งมีการแสดงงิ้วของศาลเจ้าพ่อวัดศาลเจ้า “เซียนแปะ” เป็นผู้กำหนดวันไว้ตราบจนทุกวันนี้


                    ⬛️แผ่นปั๊ม “ยันต์ฟ้าประทานพร” มังกรคู่ อาแปะโรงสี


๑.แผ่นปั๊ม #“ยันต์ฟ้าประทานพร” ทองเหลือง #อาแปะโรงสี ขนาด ๔x๖ นิ้ว แบ่งให้ ๒ แผ่น จัดให้ใน

๒.แผ่นปั๊ม #“ยันต์ฟ้าประทานพร” ทองเหลือง#อาแปะโรงสีขนาด ๒x๓ ซม.(สำหรับเลี่ยมห้อยคอ)




 
 
 

Comentarios


bottom of page