🔴 ณ หัวเข่า แปลว่าที่หัวเข่า นะ หัวเข่าคืออะไร

สมเกียรติ์ ศรีพธูราษฎร์
May 7, 2020
1 min read

คงเคยได้ยินพระปิดตาพิมพ์ นะหัวเข่ามาก่อน...!

สืบค้นพระปิดตาพิมพ์นะหัวเข่าพบว่า... ! .ต้นตำหรับมาจากหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง หรือท่านเจ้าคุณเฒ่า จัดสร้างอยู่ในราวปี พ.ศ.๒๔๔๘-๒๔๕๓

พระปิดตา นะหัวเข่า คืออะไร ? คำว่า พระปิดตา“นะหัวเข่า”คืนการมีลงยันต์”นะ”ที่หัวเข่าพระปิดตานั้นเอง

🔵 "นะ" พุทธครอบจักรวาล

ในบรรดาอักขระเลขยันต์ ของเหล่าเกจิอาจารย์ ทั้งอดีตและปัจจุบัน ยันต์ "นะ" ถือว่ามีการเขียนในรูปแบบต่างๆ มีชื่อและมีพุทธคุณต่างกันมากที่สุด อาจกล่าวได้ว่า "ยันต์นะ เป็นยันต์ตัวเดียวที่มีพุทธคุณดีทุกด้าน หรือมีพุทธคุณครอบจักรวาล" นั่นเอง โดยเฉพาะ นะ ๑๐๘ ปถม

นอกจากนี้แล้ว ยันต์นะ ๑๐๘ ปถมัง ๑๔ นะ เกจิอาจารย์ และนักสร้างพระยุคปัจจุบัน ยังใช้จารแผ่นโลหะ เป็นส่วนผสมในการหล่อพระอีกด้วย จึงอยากแนะนำพระสงฆ์ที่มีความสนใจเรื่องอักขระเลขยันต์ ไม่ต้องศึกษายันต์อื่นๆ ให้ศึกษาและหัดเขียนเฉพาะยันต์นะทั้งหมด ก็สามารถนำไปสร้างวัตถุมงคลแจกจ่ายลูกศิษย์ได้

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาเฉพาะตัว นะ ในนะ ๑๐๘ ปถมัง ๑๔ นะ จะพบว่า อาจารย์โบราณท่านได้วางแบบนะอักขระวิเศษต่างๆ ไว้มาก ดังที่ท่านเรียกกันว่า นะ ๑๐๘ แต่แท้ที่จริง บรรดานะอักขระเหล่านั้น ท่านแยกออกมาจากสูตรปถมังทั้งสิ้น แต่มีการแปลงรูปต่างกันไป เมื่อมีการแปลงรูปคาถาที่ปลุกเสกก็ต่างออกไป ตามแต่ความมุ่งหมายของชื่อนะเหล่านั้น เช่น เป็นนะทางคงกระพัน ก็เสกด้วยคาถาบทที่ว่าด้วยคงกระพัน ถ้าเป็นเมตตา ก็เสกด้วยคาถาบทที่ว่าด้วยเมตตา

การเขียนตัวนะ จะมี ๕ ตอน ประกอบด้วย ๑.พินธุ ๒.ทัณฑะ ๓.เภทะ ๔.อังกุ และ ๕.สิระ ตามลำดับกันไป และเมื่อสำเร็จเป็นรูปนะแล้ว จึงค่อยปลุกเสกตามคาถาเสกนะ คือ “นะรานะระหิตังเทวัง นะระเทเวหิปูชิตัง นะรานังกามะปังเกหิ นะมามิสุคะตังชินัง” เป็นคาถาใช้เรียกสูตรยันต์นะ เป็นสุดยอดของการเรียกสูตรคาถาอิติปิโสรัตนมาลา ข้อสำคัญ ในการเขียนนะอักขระ จำเป็นจะต้องเขียนขึ้นจากสูตรปถมังพินธุทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นนะเช่นไร ชนิดใดก็ตาม การลงเบื้องแรก จำต้องเริ่มจาก... จึงได้มีคำพังเพยของปราชญ์โบราณท่านกล่าวไว้ว่า “ปถมังพินธุ ผู้ใดได้เรียนแล้วนะมิต้องพักขอก็มาเอง”

⚫️ ด้วยเหตุยันต์ “นะ” มีพุทธคุณดีทุกด้าน หลวงปู่เอี่ยม เลยลงยันต์ ที่พระชานุ (หัวเข่า) ขององค์พระปิดตาเนื้อชินตะกั่ว อันเป็นเอกลักษณ์ เกจิรุ่นหลัง เลยได้ทำตามออกมา

การจัดสร้างพระปิดตา ของหลวงปูเอี่ยม วัดหนัง ในราวปี พ.ศ.๒๔๔๘-๒๔๕๓ หลวงปู่เอี่ยมจะให้ลูกศิษย์และญาติโยมช่วยกันจัดหาโลหะต่างๆ ที่จะนำมาเป็นส่วนผสม ‘เนื้อสัมฤทธิ์’ แล้วให้ช่างรีดเป็นแผ่นบางๆ เพื่อลงอักขระเลขยันต์ จากนั้นมอบให้ช่างนำไปหลอมเทหล่อเป็นองค์พระอีกทีหนึ่ง การจัดสร้างแต่ละครั้งมีจำนวนไม่มากนัก แต่ก็มีการสร้างอยู่หลายครั้งเช่นกัน โดยวิธีจัดสร้างจะเป็นการปั้นหุ่นเทียนแบบองค์ต่อองค์ องค์พระที่ออกมาจะมีลักษณะที่คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันทีเดียว ขนาดก็ไม่เท่ากันเป๊ะ

เนื้อสัมฤทธิ์ที่เป็นเนื้อนิยม คือ “สัมฤทธิ์เงิน” หรือเรียก สัมฤทธิ์กลับดำ เนื้อในออกขาว หรือ สัมฤทธิ์ผิวปรอท

พระปิดตา พิมพ์ยันต์ยุ่ง นับเป็นการสร้างที่ต้องใช้ความประณีต ลักษณะเป็นพระปิดตาที่มี ‘ยันต์’ วางเป็นเส้นสายตลอดเกือบทั่วทั้งองค์พระ ‘การวางเส้นยันต์’ ช่างจะปั้นเทียนเป็นเส้นลักษณะคล้ายเส้นขนมจีน แล้วนำมาวางเป็นรูปยันต์ตามที่หลวงปู่กำหนดตอนยังเป็นหุ่นเทียนอยู่ จากนั้นจึงนำไปเข้าเบ้าหลอมเทโลหะอีกครั้ง ดังนั้นเส้นสายของยันต์จึงจะไม่เหมือนกันทุกองค์ทีเดียวนัก เนื่องจากเป็นวางยันต์ทีละองค์ และถ้าตรงบริเวณพระชานุ (หัวเข่า) มียันต์ตัว ‘นะ’ ก็จะเรียกชื่อพิมพ์ว่า “พิมพ์นะหัวเข่า”

🔴 พระปิดตา เนื้อชินตะกั่ว ยุคแรก ของท่านเจ้าคุณเฒ่า วัดหนัง(หลวงปู่เอี่ยม)พิมพ์นะหัวเขา หลังอูม "เซียนพระรุ่นเก่าเรียกหลังนูน บางท่านเรียกหลังมน" เป็นเครื่องชี้และแสดงให้เห็นว่าเป็นพระที่ถูกสร้างขึ้นในยุคแรกๆของท่าน พระเครื่อง และวัตถุมงคลของท่าน โดยส่วนใหญ่ท่านจะลงด้วยพระคาถาอักขระยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้า เป็นอักขระยันต์ชั้นสูง มีอำนาจคุณวิเศษยิ่ง หาประมาณค่าเปรียบเทียบมิได้มีอานุภาพครอบจักรวาล จะแตะต้องและสำเร็จอักขระยันต์ชั้นสูงนี้ได้นั้น จะต้องเป็นพระเวทยาจารย์ที่เชี่ยวชาญ และมีญาณวิเศษชั้นสูงเท่านั้น ถึงจะจับต้องอักขระยันต์ชั้นสูงนี้ได้ โดยสังเกตจากชื่ออักขระยันต์ ถ้าไม่แน่ และไม่เก่งจริงคงไม่กล้าที่จะลงอักขระชื่อยันต์ประเภทนี้"ยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้า" เป็นพระคาถาที่หลวงปู่ได้มอบให้กับ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ ก่อนที่ท่านจะเสด็จประพาสยุโรป โดยที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชการที่๕) ท่านได้ทรงไปกราบหลวงปู่ และหลวงปู่ได้ทำนายไว้ว่าพระองค์ท่านจะบรรลุผลสำเร็จพระบรมราโชบายทุกประการ

พระปิดตา หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง จะมีลักษณะพิเศษที่นอกจากปิดตาแล้ว ในองค์เดียวกันจะมีการปิดท้องปิดทวารและปิดหูด้วย มีทั้งพิมพ์ปั้นลอยองค์ พิมพ์ครึ่งซีก ขนาดเล็กใหญ่ต่างกันเนื่องด้วยการสร้างทีละองค์ ทำพิมพ์ไปสร้างไป หมดฤกษ์หมดยาม ก็ทิ้ง ได้ฤกษ์ได้ยากใหม่ก็แกะสร้างกันใหม่ จึงนับว่าเป็นพระมหาอุดขนานแท้

⚫️ เจ้าคุณผล(พระสุนทรศีลสมาจารย์) วัดหนัง บางขุนเทียน ธนบุรี เป็นศิษย์เอกทายาทพุทธาคมของ หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง เจ้าคุณผล ได้ศึกษาวิชาอาคมต่างๆ จาก หลวงปู่เอี่ยม นอกจากนี้ท่านยังได้ขออนุญาตหลวงปู่เอี่ยมออกธุดงค์ไปที่ต่างๆ อยู่เสมอ และหลังจากหลวงปู่เอี่ยมมรณภาพแล้ว ท่านเจ้าคุณวิเชียรกวี เป็นเจ้าอาวาสสืบแทน จนถึงปี พ.ศ.๒๕๐๓ ท่านเจ้าคุณวิเชียรก็มรณภาพอีกเจ้าคุณผล ท่านจึงได้เป็นเจ้าอาวาสสืบต่อมา

เจ้าคุณผลนั้นมีวิทยาคมแก่กล้า จึงได้ขอให้ท่านช่วยสร้างเครื่องรางของขลังให้ ท่านก็เมตตาทำให้ มีทั้งหมากทุยซึ่งก็ได้ทำตามแบบหลวงปู่เอี่ยม แต่หมากทุยนั้นทำยากมาก ต้องหาหมากทุยตามตำราซึ่งก็หายาก อีกทั้งวิธีเก็บหมากทุยจากต้นนั้นก็มีกรรมวิธีที่ทำได้ไม่มากต่อครั้ง หมากทุยของท่านจึงมีน้อยและหายาก หมากทุยรุ่นเก่าๆ ของท่านบางคนเอามาตีเป็นหมากทุยของหลวงปู่เอี่ยมเลยก็มี และหมากทุยของเจ้าคุณผลก็ใช้ได้ผลไม่ต่างจากหมากทุยของอาจารย์เลย

ชาวบ้านและลูกศิษย์ก็อยากได้ของขลังจากเจ้าคุณผลมาก จึงขออนุญาตสร้างเหรียญรูปท่านก็ได้รับความนิยมจากชาวบ้านมาก มีประสบการณ์ นอกจากนี้ท่านก็ยังสร้างพระปิดตาตามแบบหลวงปู่เอี่ยมอีกด้วยเช่น พระปิดตาเนื้อตะกั่ว เป็นพิมพ์ปิดตานะหัวเข่า พิมพ์พระปิดตาท้องอุ ด้านหลังจะมีจาร และพระปิดตาเนื้อผงหัวบานเย็น ด้านหลังจะมีฝังแผ่นโลหะและมีจาร

พระปิดตาของเจ้าคุณผลนั้นมีประสบการณ์มาก มีผู้ถูกทำร้ายอยู่หลายรายแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เรียกว่าเหนียวจริงๆ ชาวบ้านในแถบวัดหนังต่างรู้ดี และหวงกันมาก ใครหาพระปิดตาของหลวงปู่เอี่ยมไม่ได้ก็จะหาพระปิดตาของเจ้าคุณผลใช้แทนก็ได้ผลดีเช่นกัน