⭕️ "อานุภาพพุทโธ"ของหลวงปู่มั่น พุทโธเป็น ”ธรรมกายในใจตนเอง”
- สมเกียรติ์ ศรีพธูราษฎร์
- May 6, 2020
- 2 min read
⭕️ สมาธิเข้าถึงฌานขั้นสูงนี้จนเกิดอำนาจจิตอภิญญาสามารถรู้เห็นจิตใจผู้อื่นได้

"ดวงแก้วพุทโธ" : พระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ
ครั้งหนึ่ง พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต กับพระลูกศิษย์รูปหนึ่ง เที่ยวธุดงค์แสวงหาที่วิเวกตามอำเภอต่าง ๆ ในเขตเชียงใหม่ ได้เดินธุดงค์ไปพักอยู่ชายเขาแห่งหนึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านชาวเขาราวสองกิโลเมตร โดยพักอยู่ใต้ร่มไม้
.
ตอนเช้าพากันเข้าไปบิณฑบาตในหมู่บ้านชาวเขา พวกชาวเขาเห็นท่านเข้าไปบิณฑบาต ชาวบ้านนำข้าวสุกมาใส่บาตรท่าน เมื่อได้ข้าวแล้วท่านก็พาพระลูกศิษย์กลับมายังร่มไม้ ที่พัก และฉันข้าวเปล่า ๆ อยู่นานวัน ขณะที่ท่านพักอยู่ใต้ร่มไม้ใกล้หมู่บ้านแห่งนี้พวกเขาใส่บาตรให้ก็จริง แต่พวกเขาไม่มี ความเลื่อมใสและไว้ใจท่านเลย
พวกชาวเขาได้จัดเวรยามครั้งละ 3 – 4 คน มีอาวุธมีดพร้าขวานแหละหน้าไม้ ให้มาคอยเฝ้าจับตาดูความเคลื่อนไหวของพระอาจารย์มั่น แหละพระลูกศิษย์อยู่ใกล้ ๆ ที่พักอยู่ตลอดเวลาทั้งวันและทั้งคืนเป็นผลัด ๆ ไม่ว่าท่านจะเดินจงกรมหรือนั่งสมาธิภาวนา พวกเขาจะคอยสอดส่ายสายตาจับตาดูความเคลื่อนไหวไม่ยอม ให้คลาดสายตาไปได้เลย ไม่พูดไม่จาไม่ไถ่ถามอะไรทั้งนั้น เอาแต่จ้องมองทมึนทึงท่าเดียว แต่เวลาเข้าไปบิณฑบาตพวกเขาก็ใส่ให้อย่างเสีย
.
เหตุการณ์เป็นไปอย่างนี้อยู่หลายวันทีเดียว บรรยากาศภายในหมู่บ้าน ตึงเครียดมาก แต่พระอาจารย์มั่นก็หาได้หวั่นไหวไม่ ท่านกำหนดวาระจิตตรวจสอบดูจิตใจชาวบ้านทุกคนอยู่ทุกระยะ ในที่สุดหัวหน้าหมู่บ้านก็จัดให้มีการประชุมขึ้นอีก ได้มีการปรึกษาพิจารณาสถานการณ์ของหมู่บ้านอย่างเคร่งเครียดว่าจะเอายังไงกับพระสององค์นี้ต่อไป

พวกเวรยามที่มาคอยเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของพระอาจารย์ มั่นได้รายงานว่า ไม่เห็นพระสององค์มีอะไรผิดแปลกเลย เห็นแต่ท่านนั่งหลับตาบ้าง เดี๋ยวลุกขึ้นเดินไปเดินมาบ้าง นอนงีบเดียวแล้วก็ลุกขึ้นมาเดินอีก เดินพักหนึ่งแล้วก็นั่งหลับตา ไม่รู้ว่าท่านนั่งหลับตาทำไมและเดินกลับไปกลับมาหาอะไร จะหาว่าของหายก็ไม่เห็นหาเจอสักที (หมายถึงเห็นท่านเดินจงกรม)
.
หัวหน้าหมู่บ้านได้ฟังดังนั้นก็นิ่งอึ้ง มีชาวบ้านผู้อาวุโสคนหนึ่งเป็นผู้เฒ่าของหมู่บ้าน เคยเข้าไปในเมือง รู้ขนบธรรมเนียมประเพณีคนเมืองอยู่บ้าง รู้จักพระสงฆ์องค์เจ้าปฏิบัติธรรมพอสมควร แกได้พูดขึ้นว่า "พระสององค์นี้เห็นจะเป็นพระจริง ๆ พระพวกนี้ชอบท่องเที่ยวอยู่ในป่าปฏิบัติตัวเป็นนักบุญ การที่พวกเราชาวบ้านไปสงสัยและกล่าวหาพระสององค์นี้ว่าเป็นเสือเป็นสางน่ากลัวจะไม่ถูกต้องเสียแล้ว จะทำให้พวกเรามีบาปหนักผีป่าผีปู่ย่าตาทวดจะโกรธเอาเปล่า ๆ ทางที่ควรจะพากันไปพบพระสององค์นี้แล้วไถ่ถามเอาให้รู้ต้นสายปลายเหตุว่า มานั่งหลับตาทำไม มาเดินไปเดินมาหาอะไร"
พวกเขาถามว่า ตุ๊เจ้านั่งหลับตานิ่ง ๆ และเดินกลับไปกลับมาทั้งกลางวันกลางคืนมาเป็นเวลาหลายวันแล้ว ตุ๊เจ้านั่งและเดินหาอะไร พระอาจารย์มั่นตอบว่า “พุทโธหาย เรานั่งและเดินหาพุทโธ”

🔴 “พุทโธเป็นดวงแก้วสว่างไสว มีหลายสีจนนับไม่ถ้วน พุทโธนี้เป็นสมบัติอันวิเศษของพระพุทธเจ้า พุทโธเป็นองค์แห่งความรู้สว่างไสวไม่เป็นวัตถุ พระพุทธเจ้าท่านมอบไว้ให้เราหลายปีแล้ว แต่เราเองยังหาพุทโธที่ท่านมอบให้ยังไม่เจอ ไม่ทราบว่าอยู่ตรงไหน แต่จะอยู่ที่ไหนไม่สำคัญนัก ที่สำคัญก็คือ ถ้าพวกสูจะพากันช่วยเราหาพุทโธจริง ๆ ให้พากันนั่งหรือเดินนึกในใจว่าพุทโธ ๆ ๆ อยู่ภายในใจโดยเฉพาะ ไม่ให้จิตส่งออกนอกกาย ให้รู้อยู่กับคำว่าพุทโธเท่านั้น ถ้าทำอย่างนี้พวกสูอาจเจอพุทโธก่อนเราก็ได้”
.
“พุทโธ ของตุ๊เจ้าหายมานานแล้วหรือ” ผู้เฒ่าอาวุโสของหมู่บ้านถามบ้าง
.
“ไม่นานหรอก ถ้าพวกสูช่วยหาให้ยิ่งจะพบเร็วกว่าเราหาเพียงคนเดียว ” พระอาจารย์มั่นตอบอย่างเป็นปริศนาธรรม
พวกชาวบ้านต่างก็ตื่นเต้นอยากจะได้ดวงแก้วพุทโธเอะอะ กันใหญ่ เพราะเป็นของดีของวิเศษ ต่างก็พากันแยกย้ายไปฝึกหัดนึกท่องพุทโธในใจโดยทั่วกันไม่นึกอย่างอื่น นึกแต่คำว่าพุทโธ ๆ ๆ นับตั้งแต่หัวหน้าหมู่บ้านลงมาถึงผู้หญิงและเด็ก ๆ ที่พอจะรู้วิธีนึกท่องในใจหาพุทโธได้ .
.พวกชาวเขาเป็นคนซื่อโดยกำเนิด ถ้าเชื่อเลื่อมใสศรัทธาอะไรแล้วก็คิดเลื่อมใสเลยไม่มีอะไร สงสัยข้องใจ จิตของพวกเขาจึงเข้าถึงสมาธิได้รวดเร็วและเป็นที่อัศจรรย์ด้วยบารมีของพระพุทธเจ้า ปรากฏว่าไม่นานนัก ชาวป่าผู้หนึ่งซึ่งเดินท่องพุทโธนั่งท่องพุทโธตามหาดวงแก้วพุทโธนั้นบังเกิด
.
ประสบเข้ากับธรรมะ คือความสงบสุขทางใจด้วยอำนาจการนึกบริกรรมพุทโธตามวิธีสมาธิแยบยลที่พระอาจารย์มั่นใช้อุบายสอน เขารีบวิ่งออกจากหมู่บ้านมาเล่าให้พระอาจารย์มั่นฟัง ว่าก่อนหน้า ๓ -๔ วันที่เขาจะประสบกับดวงแก้วพุทโธนั้น ได้นอนหลับและฝันไป ฝันเห็นพระอาจารย์มั่นเอาเทียนใหญ่จุดไฟสว่างไสวไปติดไว้บนศีรษะเขา ทำให้ร่างกายของเขาสว่างไสวไปหมดเขาดีใจมาก มีความสุขทางใจอย่างบอกไม่ถูก

เมื่อถามถึงพุทโธเป็นลักษณะอย่างไร ตุ๊เจ้าก็บอกว่าเป็นดวงแก้ววิเศษสว่างไสวความจริงตุ๊ เจ้าเป็นพุทโธอยู่แล้ว มิได้ทำให้พุทโธสูญหายไปไหน แต่เป็นอุบายอันฉลาดของตุ๊เจ้าที่เมตตาสงสารพวกเฮาชาวป่าชาวดอย ให้พวกเฮาภาวนาพุทโธเพื่อให้จิตพวกเฮาสว่างไสวเหมือน จิตตุ๊เจ้าต่างหาก เฮาฮู้แล้วว่าตุ๊เจ้าเป็นผู้ประเสริฐเฉลียวฉลาด ปรารถนาให้พวกเฮาได้บุญใหญ่ มีความสุข พบพุทโธดวงแก้วประเสริฐที่ใจตัวเอง มิใช่ให้หาพุทโธให้ตุ๊เจ้าเลย !"
.
ทีนี้นับตั้งแต่ชาวป่าคนนั้นได้เห็นพุทโธหรือธรรมกายในใจตนเองแล้ว เรื่องก็กระจายไปทั่วหมู่บ้านในไม่ช้า ทำให้ชาวบ้านต่างก็พากันเร่งภาวนาพุทโธไปตาม ๆ กันเพราะอยากจะได้ดวงแก้วพุทโธบ้าง เพราะเกิดความเชื่อถือเลื่อมใสพระอาจารย์มั่นมาก
.
นับแต่นั้นมา เวลาท่านออกบิณฑบาตพวกชาวบ้านต่างก็พากันใส่บาตรเป็น แถวและติดตามส่งบาตรรพากันขอศึกษาธรรมเพิ่มเติมกับท่านทุกวัน อาหารการขบฉันที่เคยขาดแคลนก็กลายเป็นความสมบูรณ์ขึ้น ชาวป่ายังช่วยกันสร้างกระท่อมมุงหลังคาใบไม้ให้เป็นกุฏิที่พักถากถางป่ารกรุงรังให้เป็นที่เดินจงกรม ปัดกวาดคลานกุฏิให้สะอาดกว้างขวางน่าอยู่อาศัยกว่าเดิม
.
ชั่วเวลาไม่นาน ชาวบ้านหลายคนก็สำเร็จทางในได้พบดวงแก้วพุทโธเพิ่มขึ้นหลายคน ปีนั้นท่านเลยต้องจำพรรษาอยู่ที่นั่นไปไหนไม่ได้ เพราะชาวป่าไม่ยอมให้ไป รวมเวลาแล้วนับปีกว่า จึงได้ลาจากกันในที่สุด
.
อ้างอิง : จากหนังสือประวัติท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ โดยพระอาจารย์หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโน

🔵ในวาระฉลอง ๑๕๐ ปี ชาตกาล หลวงปู่มั่น องค์การยูเนสโก ได้ประกาศให้ ท่านเป็นบุคคลสำคัญของโลก สาขาสันติภาพ คณะกรรมจัดงาน จึงได้จัดสร้างพระกริ่ง หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ขึ้น เพื่อหารายได้สมทบทุนสร้างรูปเหมือนหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ถวายวัดป่าในสายพระป่าทั่วประเทศ

สร้างตามหลัก โบราณทั้งสิ้น แผ่นยันต์จารด้วยลายมือของพระเกจิทั้งครูบาอาจารย์ ได้ลงพลังแห่งจิตที่ตั้งในคุณความดี๑๐๘ แผ่น และลงนะปถมัง ๑๔ นะ พร้อมฤกษ์ผานาที รวมถึงชนวนมวลสารอันสำคัญมากมาย เพื่อหล่อหลอมสรรพวิชา ให้อยู่ในหนึ่งเดียวกัน
.
⚫️ พระกริ่งภูริทัตโต ๑๕๐ ปี หลวงปู่มั่น ได้ฤกษ์เททองในวันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๖๓ โดยท่านพระครูสังวรโสภิต(พระอาจารย์สมภพ สุมโน) ประธานคณะสงฆ์มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ซ.วัดเพลงวิปัสสนา ซึ่งเป็นลูกศิษย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เป็นองค์อธิษฐานจิตเททอง ได้นำ ชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์มากมาย นำมาหล่อหลอมให้เป็นสุดยอดพระกริ่งแห่งปี
ขณะหล่อหลอมชนวนโลหะ อุณหภูมิร้อนแรงกว่า ๑,๖๐๐ °C จนชนวนมวลโลหะต่างหลอมละลายหมด แม้นกระทั่งเหล็กที่จุดหลอมเหลวสูงถึง ๑,๕๓๘ °C ก็ยังหลอมละลาย แต่แผ่นยันต์พระคาถาแคล้วคลาดโมรปริตร ตะกรุดสารพัดดีทั้ง ๓ ดอกของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ที่ได้มาจากบ้านนายแพทย์ที่เคยอุปัฏฐากพระสายวัดป่า ตะกรุด ๙ รัตนมาลา ของหลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช และตะกรุดเชือกถักหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ต่างไม่ยอมหลอมละลายผสมกับชนวนอื่นๆ แม้นจะโหมไฟแรงยังก็ไร ก็ไม่สามารถทำให้รวมตัวกับชนวนอื่น ๆได้ เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง ทั้งที่ตะกรุดและแผ่นยันต์เป็นเพียงแผ่นทองแดงบางๆ น่าจะหลอมละลายก่อน อีกทั้งทองแดงมีจุดหลอมเหลวต่ำกว่าเหล็ก เพียง ๑,๐๘๕ °C
สร้างความแปลกใจ แก่นายช่างที่เทหล่อเป็นอย่างยิ่ง นายช่างบอกว่า “เท่าที่เคยหล่อมา ตะกรุดจะหลอมละลายเร็วที่สุด เพราะเป็นแผ่นทองแดงที่รีดบางๆจะหลอมละลายง่ายมาก แต่รอบนี้ช่างบอกว่าตะกรุดที่นำมาผสมละลายช้าและแทบไม่ละลายเลย ชุดนำฤกษ์ชุดนี้จึงปรากฏชิ้นตะกรุดเก่าทุกองค์ อันเป็นอิทธิฤทธิ์ของตะกรุดเก่าสายพระป่าโดยแท้ ปรากฏการณ์ความศักดิ์สิทธิ์ตั้งเทหล่อนำฤกษ์กันเลยทีเดียว

🔸ตะกรุดเชือกถัก หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต :

แม้หลวงปู่มั่นเป็นพระกรรมฐานที่เน้นการปฏิบัติเอาจิตหลุดพ้นโลก และไม่เคยสร้างวัตถุมงคลด้วยตัวท่าน แต่การสืบค้นพบว่ามีวัตถุมงคลบ้างส่วนที่ท่านเคยอธิฐานจิตไว้บ้าง (ข้อมูล : ตีพิมพ์ในนิตยสารศักดิ์สิทธิ์ ปี พ.ศ.๒๕๓๕) ตะกรุดเชือกถัก หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งผ่านการอธิฐานจิตด้วย คาถา นโม วิมุตตานัง นโม วิมุตติยา พระคาถา(พระคาถานกยูงทอง) ซึ่งปรากฏในโมรปริตร ท่าน และแผ่นยันต์คาถาโมรปริตร อันเป็นคาถาประจำตัวหลวงปู่มั่น
🔹ตะกรุดสารพัดดี พระอาจารย์ฝั่น อาจาโร :

พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร เป็นลูกศิษย์ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ท่านได้สร้างตะกรุดให้กับลูกศิษย์ใกล้ชิดได้นำไปบูชาติดตัว อันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่นด้านเมตตา คุ้มครอง ป้องกันภัย นำโชค เสริมลาภ วาสนาบารมี ตะกรุดสารพัดดี พระอาจารย์ฝั่น อาจาโร เป็นตะกรุดคุ้มกันภัย จากอสรพิษและสัตว์ร้ายต่าง ๆ จากผู้คิดร้าย จากอมนุษย์ ทำให้สุขภาพดี มีอายุยืน และพ้นจากอุปสรรคทั้งปวง ประสบชัยชนะ และมีความสุขสวัสดี พ้นจากอุปสรรคอันตราย พ้นจากอัคคีภัย พ้นจากอุปสรรคอันตราย และการตกจากที่สูง ทำให้คลอดบุตรง่าย และป้องกันอุปสรรคอันตราย ทำให้พ้นจากภัยพิบัติ และไม่ฝันร้าย

🔸ตะกรุด ๙ รัตนมาลา หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช อยุธยา :
คาถามนต์ขลังสำนักตักศิลา แห่งกรุงศรีอยุธยา อานุภาพครอบจักรวาล ทั้งเมตตามหานิยม คงกระพันแคล้วคลาด ป้องกันภูตผีปีศาจ และเขี้ยวงา ในพิธีปลุกเสกพระวัดประสาท ปี ๒๕๐๖ ตะกรุดที่เทหลอที่ไม่ยอมละลายในเตาหลอม อยู่ ๓ ท่าน และที่แปลกคือเป็นตะกรุดของ ทั้ง๓ ท่านเป็นศิษย์ร่วมสำนักสายวัดประดู่ทรงธรรม ได้แก่ หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง หลวงพ่อแทน วัดธรรมเสน และหลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราชอยู่ ๑ ใน ๓ ท่านด้วย
🔹ตะกรุด หลวงพ่อสว่าง วัดท่าพุทรา : มหาอำนาจ ลงยันต์ หลวงพ่อสว่าง วัดท่าพุทรา

พระวิบูลวชิรธรรม (สว่าง อุตฺตโร) สุดยอดวิชาในการจัดสร้างเครื่องรางชั้นสูงของโบราณจารย์ ลงยันต์หนังเสือ อักขระเลขยันต์แต่ล่ะตัวที่บรรจงขีดเขียนลงไปนั้น ต่างก็มีความหมายที่เป็นมงคลในตัวเอง สรรเสริญคุณแห่งพระพุทธพระธรรมและพระสงฆ์ และจะต้องตั้งธาตุหนุนธาตุตลอดจนบริกรรมพระคาถาตลอดการลงยันต์ตั้งแต่เริ่มต้นจารอักขระตัวแรกจนตัวสุดท้าย ยันต์หลวงพ่อสว่าง เด่นทางด้านมหาอำนาจ มีตบะเดชะวาสนาบามี ป้องกันภูตผีปีศาจคุณไสยมนต์ดํา แคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรีและมหาอุด ตะกรุดของท่านจะมีเอกลักษณ์ ที่เป็นทองแดงรีด ตัด ๔ มุม
🔴พระกริ่งภูริทัตโต ๑๕๐ ปี หลวงปู่มั่น ยังได้นำตะปูสังฆวานรมาเป็นชนวนศักดิ์สิทธิ์ในการหล่อ นับเป็นพระกริ่งองค์ที่ ๒ ต่อจากพระกริ่งชินบัญชร ๑๐๐ ปี วัดบวรฯ ที่มีการใช้ตะปูสังฆวานรเป็นชนวนโลหะในการหล่อพระกริ่ง ตะปูสังวานรที่ใช้เป็นชนวนในการหล่อครั้งนี้ประกอบด้วย
-ตะปูสังฆวานรวัดบางหว้าใหญ่ (วัดระฆังในปัจจุบัน)
-ตะปูสังฆวานรของพระอุโบสถวัดรังสีสุทธาวาส (พระอุโบสถคณะรังสี วัดบวรฯ)
-ตะปูสังฆวานร พระอุโบสถวัดชนะสงครามราชวรวิหาร
นอกจากนั้นยังได้นำชนวนศักดิ์สิทธิ์อีกมากมาย เรียกว่าเป็นครั้งมโหฬารเลยที่เดียวดังตัวต่อไปนี้
-ชนวนรูปหล่อหลวงพ่อเงิน พิมพ์ขี้ตารุ่นแรก วัดบางคลาน
-ชนวนหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน
-ชนวนพระกริ่งชินบัญชร ปี ๒๕๑๗ หลวงปู่ทิม
-ชนวนพระกริ่งปวเรศ ๒๕๓๐ วัดบวรฯ
-ชนวนพระกริ่งบวรรังสี ปี ๒๕๒๘ วัดบวรฯ
-ชนวนพระกริ่งชินบัญชร ๑๐๐ ปี วัดบวรฯ
-ชนวนพระกริ่่งชินบัญชร ญสส ปี ๒๕๕๓ รุ่นตะกรุดไม่ละลาย
-ชนวนพระกริ่งญาณรังสี รุ่นแรก ปี ๒๕๓๑
-ชนวนพระกริ่งพุทธญาณ นเรศวร์ ปี ๒๕๒๘
-ชนวนพระกริ่งหลวงปู่โต๊ะ รุ่นแรก ปี ๒๕๑๕
-ชนวนพระกริ่งสายฟ้า หลวงปู่โต๊ะ ปี ๒๕๒๐
-ชนวนรูปหล่อ หลวงพ่อเขียน ธัมมรักขิโต วัดสำนักขุนเณร ๒๔๙๓
-ชนวนพระชัยวัฒน์พระครูสอน วัดมักกะสัน ปี ๒๔๘๐-๒๔๘๕
-ชนวนชนวนพระกริ่งบรมครู ๓๒ ปี ๒๕๔๙
-ชนวนรูปหล่อทุบเบ้าโบราณ รุ่นเสาร์ห้าบูชาครู ปี ๒๕๔๓
-ชนวนพระกริ่งบุพพาภิมงคล วัดบุพพาราม ปี ๒๕๑๙
-ชนวนพระกริ่งไทยพุทธคุณรักษา อาจารย์ไสว วัดราชนัดดา ปี ๒๕๑๙
ฯลฯ
.
-แผ่นยันต์ ๑๐๘ แผ่น และนะปถมัง ๑๔ นะ
-แผ่นจารพระคาถาแคล้วคลาดโมรปริตร
-แผ่นจารลายพระหัตถ์ สมเด็จฯ แผ่นนี้ทรงประทาน ปี ๒๔๓๓
.
ชนวนเหรียญและตะกรุดอีกมากมาย
⭕️ ชุดพระกริ่งภูริทัตโต ๑๕๐ ปี หลวงปู่มั่น เนื้อนวโลหะ ได้จัดเป็นพระกริ่งและพระชัยวัฒน์บรรจุทั้ง ๒ องค์ในกล่องเดียวกัน จำนวนสร้าง ๒,๙๙๙ ชุด ในราคาเปิดจองที่ ๑,๖๐๐ บ.ต่อ ๑ ชุด(พระกริ่ง+พระชัย)
.
ท่านสามารถบูชาได้ที่
.
Line กลุ่ม แดนท่าพระจันทร์ : https://line.me/R/ti/g/2rj3AiuXTo
facebook แดนท่าพระจันทร์ : https://www.facebook.com/adulnanthad.kijchaiyaporn
webwebsite : https://www.xn--82cxjbhc7a3bd0kmh5qxd3c.com/
instagram : https://www.instagram.com/danthaprachan/
Comments