⭕️ พระกริ่งเนื้อนวะแบบเกินสูตร “อัญมณีแห่งยุคสมัย”
- สมเกียรติ์ ศรีพธูราษฎร์
- May 4, 2020
- 1 min read
การสร้างพระกริ่งในประเทศไทยยึดถึงตำหรับสมเด็จพระพนรัต วัดป่าแก้ว(วัดใหญ่ชัยมงคล) สืบทอดกันมา นอกจากต้องใช้ยันต์ ๑๐๘ และยันต์นะ ๑๔ นะ เนื้อนวโลหะยังมีการกำหนดสูตรเฉพาะประกอบด้วยประกอบไปด้วยโลหะ ๙ อย่างคือ
๑.ชินหนัก ๑ บาท
๒ .จ้าวน้ำเงินหนัก ๒ บาท
,๓.เหล็กละลายตัว หนัก ๓ บาท
๔.ทองแดงบริสุทธิ์ หนัก ๔ บาท
๕.ปรอท หนัก๕ บาท
,๖.สังกะสี หนัก ๖ บาท
๗.ทองแดง หนัก ๗ บาท
๘.เงิน หนัก ๘ บาท
๙.ทองคำหนัก ๙ บาท
นอกจากนั้นยังต้องมีพิธีกรรม วิธีการสร้างเป็นตำรับวิชาสมถะ วิปัสสนาธุระ

หากมีสิ่งอื่นโลหะอื่นเจือปน อาจทำให้เนื้อนวะมีการแตกร้าวหรือเกิดรูพรุน และเนื้อโลหะอาจแข็งมากเกินไป จึงไม่มีพระกริ่งองค์ใดใช่ของทนสิทธิ์อื่นลงไปเป็นชนวน นอกจากชนวนโลหะที่เป็นนวโลหะด้วยกัน
🔴มีพระกริ่งอยู่ ๒ องค์ที่ใช้ชนวนโลหะ”ตะปูสังฆวานร โบสถ์ วัดบางหว้าใหญ่ (วัดระฆังในปัจจุบัน) อายุ ๓๐๐-๔๐๐ ปี เป็นชนวนในการหล่อ จนต้องเรียกกับว่า”เนื้อนวะเกินสูตร” พระกริ่ง ๒ องค์นั้นคือ พระกริ่งชินบัญชร ๑๐๐ ปี และพระกริ่งภูริทัตโต ๑๕๐ ปี หลวงปู่มั่น
🔵วัดบางหว้าใหญ่ หรือวัดระฆังในปัจจุบัน ซึ่งเป็นวัดเก่าสร้างครั้งกรุงศรีอยุธยา การสร้างวัดสร้างวัง ในสมัยอยุธยายังไม่มีตะปูหรือน๊อตในการสร้างโบสถ์ วิหาร สมัยนั้นจึงใช้ชินเขียวทำเป็นตะปู นำมาเป็นตัวตอกสลัก โดยเทและทำเป็นแท่งกลม แท่งเหลี่ยม ปลายแหลม เรียกว่า ตะปูสังฆวานร ใช้ตอกยึดเสนานะและถาวรวัตถุในวัด
.
ตลอดอายุการใช้งานอันยาวนาน ตะปูสังฆวานรได้ผ่านพิธีทางศาสนาและผ่านการสวดมนต์ ทำวัตรเช้า-เย็น สวดพระปาติโมกข์ และการสวดญัตติเวลาที่มีการบวชพระ อีกทั้งหลวงพ่อ หลวงปู่ ในสมัยนั้นก็มักจะนิยมปลุกเสกวัตถุมงคลในโบสถ์สม่ำเสมอ เมื่อเสนานะโบสถ์ วิหาร ตะปูสังฆวานร นั้นได้ผ่านกาลเวลา และผ่านการปลุกเสกตลอดมา รวมถึง ได้ผ่านพิธีการทางสงฆ์ต่างๆ มาเป็นระยะเวลายาวนาน จึงเชื่อว่าน่าจะเต็มไปด้วยพลังพุทธคุณต่างๆ นั่นเอง จึงได้นำมาหลอมละลายเพื่อผสมผสานในการสร้างพระเนื้อชิน ยิ่งไปกว่านั้นท่านยังนิยมนำมาตอกสะกดภูติผีปีศาจได้ผลยิ่งนัก ต่อมาจึงใช้เป็นส่วนผสมในการสร้างมีดหมอหรือมีดอาคมต่างๆ ทรงคุณค่าและอานุภาพในตัวพร้อมสรรพ ทีเดียว
.
ตะปูสังฆวานร โบสถ์ วัดบางหว้าใหญ่ จึงผ่านการสวดพระปาติโมกข์ และพระคาถาชินบัญชรนับหลายร้อยปี ตลอดจนสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ใช้โบสถแห่งนี้พร่ำปรก เสก สมเด็จวัดระฆัง ด้วยคาชินบัญชรอยู่ทุกเช้าค่ำ พระคาถาต่างๆ ย่อมซึมซับไปทุกอนุของตะปูสังฆวานร ที่ยึดตรึงโบสถ์แห่งนี้ไว้
⚫️ตะปูสังฆวานร โบสถ์วัดบ้างหว้าใหญ่นอกจากนำมาสร้างพระกริ่งชินบัญชร ๑๐๐ ปี และพระกริ่งภูริทัตโต ๑๕๐ ปี หลวงปู่มั่น แล้วได้ใช้ในการสร้างพระแสงดาบปราบไพรีของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อีกองค์หนึ่งด้วย ดังจะเห็นได้จากสูตรการสร้างดาบของสำนักประดู่ทรงธรรม อันเป็นสำนักตักศิลาของสมัยอยุธยาดังนี้
.
๑.วัสดุที่จะนำมาตีเป็นใบมีด เหล็กสังฆวานรตะปูโบสถ์ เหล็กยอดเจดีย์ เหล็กน้ำพี้แท้ๆ และชนวนเก่าเป็นสุดยอดมวลสาร
๒.ไม้ที่จะมาทำฝักและด้ามที่ดีต้องเป็น ไม้เสาโบสถ์ หรือไม้มงคลต่างๆ บางเล่มมีงากำจัดตรงด้ามจับด้วย
๓.มวลสารที่อุด
๔.ฤกษ์ที่เบิกฤกษ์ที่ตี ตามตำราใช้เสาร์ห้าอังคารแปด
๖.สำคัญที่สุด ผู้ตีหรือผู้สร้างต้องได้รับการประสิทธิวิชาอย่างถูกต้อง
.
ตะปูโบสถ์บางหว้าใหญ่(ตะปูสังฆวานร) ที่ผ่านการผาสิกรรมแล้ว สุดยอดโลหะที่จะถูกนำมาตีดาบ ตำรานับมีดตามตำราวัดประดู่ทรงธรรม อยุธยา
🔴สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงสร้างพระราชวังใกล้วัดบางว้าใหญ่ โปรดเกล้าฯ ให้ยกเป็นพระอารามหลวงและเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช และได้ทรงบูรณะในปี พ.ศ. ๒๓๑๒ บูรณะโบสถ์อีกครั้งในรัชกาลที่ ๑ และเกิดไฟไหม้ในรัชกาลที่ ๓ จึงได้สร้างโบสถ์หลังใหม่ขึ้นมาแทน

”พิธียกดาบปราบไพรี พิธีโบราณอันศักดิ์สิทธิ์ของวัดอรุณฯ ” ยังคงจัดพิธีดังกล่าวขึ้นทุกปีในวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระเจ้าตากสิน ในวันที่ ๑๗ เมษายนและวันปราบดาภิเษกคือวันที่ ๒๘ ธันวาคม ของทุกสืบเนื่องจนถึงปัจจุบัน ดาบปราบไพรี ถือเป็นศาสตาวุธคู่กายอันศักดิ์สิทธิ์ ดาบปราบไพรี เป็นสัญลักษณ์แห่งการกู้ชาติกู้บ้านกู้เมือง ที่ทำให้เหล่าศัตรูต่างขยาดหวาดเกรง นอกจากนี้ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งการฟันฝ่า ชัยชนะ ทั้งยังเป็นของขลังอันศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัว
🔵พระกริ่งชินบัญชร ๑๐๐ ปี สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร วัดบวรฯเป็นพระกริ่ง ๑ ใน ๒ องค์ เป็นพระกริ่งหล่อโบราณเนื้อนวโหละแก่ทองคำ ตามตำหรับโบราณสืบทอดมาแต่โบราณ โดยได้เพิ่มตะปูสังฆวานร โบสถ์วัดบางหว้าเข้าไปเป็นชนวน โลหะถึง ๒๘ ดอก ตะปูสังฆวานรชุดนี้ พระครูเข็มแห่งวัดระฆังได้มอบให้คณะกรรมการได้มาจากพระอุโบสถ์เก่า
.
🔶การเทหล่อพระกริ่งชินบัญชร ๑๐๐ ปี ได้นายช่างสมร รัชชนะธรรม ซึ่งเป็นผู้เทหล่อพระกริ่งชินบัญชรของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ปี พ.ศ. ๒๕๑๗ พระกริ่งชุดนี้ถึงหล่อได้งดงาม ข้อสังเกตพระกริ่งชินบัญชร ๑๐๐ ปี เป็นพระกริ่งหล่อโบราณที่ไม่เปิดผิว(บนผิวยังหุ้มด้วยเนื้อดินผสมนวโลหะอยู่) และบนผิวจะเกิดคราบไขของตะปูสังฆวานร(คราบขาวๆคล้ายหิมะ)เกาะอยู่ ซึ่งไม่มีพระกริ่งองค์ได้สามารถเรียนแบบได้

🔷พระกริ่งชินบัญชร ๑๐๐ ปี จึงเป็นอัญมณีแห่งยุคสมัย ที่สร้างพระกริ่งเนื้อนวะแบบเกินสูตร
Comments