หากใครโดนเจ้านายกัด...!

"คาถาวัวกินนมเสือ" ต้องหมั่นภาวนา!! ผลดีเกินคาด

"สมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศน์ฯ"สุดยอดแห่งเมตตามหานิยม!!

ยันต์สุกิตติมา (ยันต์ปทุมคงคาหรือยันต์ปทุมจักร)

จาก "เรื่องเสือโคคำฉันท์ ตัวเอกชื่อหลวิชัยกับคาวี"

ในเรื่องแม่เสือกินแม่วัว และตั้งใจจะกินลูกวัวด้วย แต่ลูกเสือไม่ยอม ได้ขอร้องชีวิตลูกวัวเอาไว้ แม่เสือเห็นแก่ลูกจึงยอมไว้ชีวิตลูกวัว แต่ก็ตั้งใจว่าเลี้ยงลูกวัวให้อ้วนเมื่อไรแล้วจะกิน ลูกวัวจึงได้กินนมเสือพร้อมกับลูกเสือ ทำให้ทั้งรักใคร่เหมือนพี่น้อง ลูกเสื้อรู้ว่าแม่เสือจะกินลูกวัวเมื่อลูกวัวอ้วนพี จึงชวนลูกวัวช่วยกันฆ่าแม่ พอฆ่าแม่เสร็จก็กลายเป็นกำพร้า ร่อนเร่พเนจรไปเจอฤๅษี ฤๅษีจึงชุบสัตว์ทั้งสองให้กลายเป็นคน เสือชื่อหลวิชัย วัวชื่อคาวี" สัตว์ที่ฆ่าพ่อแม่ถือว่าเป็นอนันตริยกรรมหรือไม่ครับ ? การที่สัตว์ฆ่าพ่อแม่ไม่เป็นอนันตริยกรรม เพราะสัตว์เมื่อโตขึ้นจะจำพ่อแม่ไม่ได้ นี่เป็นธรรมชาติของเขา พอถึงช่วงอายุหนึ่ง เขาก็จะโดนพ่อแม่กัดไล่ เพื่อให้ไปหากินเอง

โบราณเขามีคาถาเมตตาอยู่บทหนึ่ง เรียกว่า คาถาวัวกินนมเสือ ต่อให้เป็นศัตรูเราก็สามารถใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ สมัยหลัง ๆ เรียกง่าย ๆ ว่า คาถาสุกิตติมา(ยันต์ปทุมคงคาหรือยันต์ปทุมจักร)) เป็นคาถาที่สมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศน์เทพวราราม ท่านจะใช้ลงในขันน้ำมนต์และใช้เสกพระกริ่งของท่าน หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ใช้เป็นยันต์สำหรับสร้างพระปิดตาของท่าน

.

ในสมัยโบราณนิยมเขียนไว้ในตลับสีผึ้งหรือลงแผ่นทองแดง แผ่นตะกั่วแช่น้ำมันจันทน์หอมเอาแตะหน้าผากเช้าเย็นเป็นมหานิยมมาก มีคติความเชื่อของพุทธคุณแห่งยันต์สุกิตติมา(ยันต์ปทุมคงคาหรือยันต์ปทุมจักร) ว่า ถือเป็นสุดยอดของยันต์วิเศษชนิดหนึ่งที่ผู้ทำต้องมีพลังสมาธิขั้นสูงจึงจะทำสำเร็จได้ เป็นยันต์มหาละลวย ส่งผลให้มีพุทธคุณด้านหนุนดวงพลิกฟื้นดวงชะตาให้กลับร้ายกลายเป็นดีและขับไล่เสนียดจัญไรต่างๆ

พระคาถาสุกิตติมา เป็นพระคาถาเมตตามหานิยมเป็นอย่างยิ่ง(เป็นบทที่พระสังกัจจายน์เข้า อภิญญาอธิษฐานลาภ ต่อมาสมเด็จพระสังฆราชแพ ทรงนำมาประกอบกับยันต์บารมี ๓๐ ทัศน์ มีลักษณะเพิ่มเติมเข้ามาด้วยกลีบบัวล้อมรอบยันต์ดวงสุกิตติมาแล้วใส่อักขระบทย่อของ พระคาถาบารมี ๓๐ ทัศน์ เรียกว่ายันต์ปทุมคงคา หรือยันต์ปทุมจักร ทรงใช้ลงที่ฝาครอบน้ำมนต์ด้านใน และด้านในพื้นขันน้ำมนต์ ภาษของนักเล่นยันต์จะเรียกว่า "ประกบหน้าประกบหลัง" หรือ "ประกบบนประกบล่าง" น้ำพระพุทธมนต์ที่บรรจุภายในจึงเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง

ผ้ายันต์ปทุมคงคา หรือ ผ้ายันต์ปทุมจักร เจ้าคุณศรีฯ(สนธิ์) วัดสุทัศน์เทพวราราม ปี ๒๔๙๓

ท่านเจ้าคุณศรีฯ(สนธิ์) เมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๔๙๓(ปีเริ่มสงครามเกาหลี) ท่านเจ้าคุณพระศรีสัจจญาณมุนี(สนธิ์) หรือเจ้าคุณศรีฯ(สนธิ์)

เจ้าคุณศรีฯ(สนธิ์) เมื่ออายุ ๑๓ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร พ.ศ.๒๔๕๙ ได้ย้ายไปอยู่วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี ในความปกครองของ ท่านเจ้าคุณพระพุทธิวิถีนายก (หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว) เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม จนถึง พ.ศ.๒๔๖๐ จึงได้ย้ายกลับมาอยู่ที่วัดสุทัศน์ฯ พ.ศ.๒๔๖๖ ได้เข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมี สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทโว) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระพรหมมุนี เป็นพระอุปัชฌาย์

ท่านเป็นผู้สนใจการศึกษาในศาสตร์ต่างๆ อาทิ วิชาแพทย์แผนโบราณ ยาที่ประกอบขึ้นแต่ละขนานปรากฏว่ามีสรรพคุณใช้บำบัดโรคได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ท่านยังสนใจ วิชาโหราศาสตร์ สามารถพยากรณ์ได้แม่น โดยเฉพาะการคำนวณฤกษ์ยามเพื่อประกอบพิธีการมงคลต่างๆ ให้ผลดีเสมอ รวมทั้งความสนใจในเรื่อง “ไสยศาสตร์” การใช้เวทมนตร์คาถา ซึ่งท่านเริ่มสนใจสมัยเป็นสามเณรไปอยู่กับหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว

หลักวิชาเวทมนตร์คาถานี้ ท่านได้เพียรบำเพ็ญอบรมจิตใจในทางวิปัสสนาธุระควบคู่ไปด้วย เรื่องความขลังความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน จึงได้สำแดงออกให้บรรดาศิษยานุศิษย์ทั้งหลายได้พบเห็นเป็นประจำ

วันที่ ๘ ธันวาคม ๒๔๙๓ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระมงคลราชมุนี ท่านจึงดำริให้พิมพ์ผ้ายันต์ปทุมคงคาแจกแก่ศิษยานุศิษย์ที่มาร่วมในพิธีมุทิตาสักการะในงานเลื่อนสมณศักดิ์

ยันต์ปทุมคงคาหรือยันต์ปทุมจักร (ผ้ายันต์ยันต์สุกิตติมา) เจ้าคุณศรีฯ (สนธิ์) วัดสุทัศน์ ปี ๒๔๙๓ จึงเป็นผ้ายันต์ที่ควรมีติดบ้านทุกบ้าน พุทธานุภาพครอบจักรวาล เมตตามหานิยมแคล้วคลาดและคงกระพันชาตรี มีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานเป็นที่รักใคร่ทั้งเจ้านายและบริวาร ใส่กรอบติดไว้ป้องกันภัยสารพัด อัคคีภัย โจรภัย อาถรรพณ์ผีเข้าเจ้าทำ ทำมาค้าขาย