พุทธคุณแห่งน้ำมนต์ คติความเชื่อที่สืบมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบันอุปเท่ห์ ใช้พระกริ่งทำน้ำพระพุทธมนต์
- สมเกียรติ์ ศรีพธูราษฎร์
- Apr 16, 2020
- 2 min read
การสร้างพระกริ่งนั้น เริ่มแรกถูกสร้างจากตำราของสมเด็จพระพนรัต วัดป่าแก้ว จากนั้นจึงตกทอดมายังสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ วัดบวรนิเวศวิหาร ในครั้งนั้นท่านโปรดให้สร้าง “พระกริ่งปวเรศ” ขึ้น โดยมีลักษณะเป็นพุทธรูปลักษณะ “ปางหมอยา” โดยมีความโดดเด่นด้านการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ

อุปเท่ห์ในการใช้พระกริ่ง ก็คือ การอาราธนาพระกริ่ง เพื่อทำน้ำพระพุทธมนต์ แล้วนำมาดื่ม อาบ ทา เพื่อบรรเทาจากโรคภัยไข้เจ็บที่เป็นอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการรักษาภายนอก ได้แก่อาการบาดเจ็บต่างๆ หรือการเจ็บป่วยภายใน ก็ได้ผลอย่างน่าอัศจรรย์
.
สำหรับในปัจจุบันพระกริ่งที่ยังได้รับความนิยมอยู่และมีมูลค่าสูง ได้แก่ พระกริ่งปวเรศ วัดบวรนิเวศฯ และพระกริ่งสายวัดบวรฯ ทั้งหมด พระกริ่ง พระสังฆราชแพฯ วัดสุทัศน์ และถือได้ว่าการสร้าง พระกริ่งในสายวัดสุทัศน์นั้นเป็นการสร้างที่มีขั้นตอนอย่างละเอียด เพื่อให้ถูกต้องและเป็นไปตามตำราทุกประการ เช่น ต้องมีส่วนผสมของโลหะทั้งเก้าชนิด ชนิดละเท่าไหร่ ก็จะมีสัดส่วนบอกไว้ตามตำรา
.
โดยจะไม่ผิดเพี้ยนไปจากนั้น รวมถึงการปลุกเสกที่มีพิธีกรรมอันซับซ้อน การปลุกเสกที่ใช้พลังจิตอันแน่วแน่ ทำให้พระกริ่งวัดสุทัศน์มีชื่อเสียงอย่างมากในด้านของการบรรเทาหรือรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ปัจจุบันนี้พระกริ่งปวเรศฯ หรือพระกริ่งในสายวัดสุทัศน์แท้ๆนั้นหายากมากเพราะเป็นพระเก่าควรค่าแก่การเก็บไว้เป็นมรดกให้ลูกหลาน ในปัจจุบันยังมีการสร้างพระกริ่งขึ้นมาจากหลายวัด หลายพระเกจิอาจารย์ที่ทำการปลุกเสก
🔵 แต่จะมีสักกี่คนที่จะรู้ถึงคุณอันวิเศษของ “พระกริ่ง” ที่มีมากไปกว่านั้น นั่นคือจาก มหาปณิธาน 12 ประการ ของ พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต และจากบันทึกของอาจารย์เสถียร โพธินันทะ ปราชญ์ในทางพระพุทธศาสนา ได้กล่าวถึงพระกริ่งไว้ว่า “พระกริ่ง” คือ พระไภษัชยคุรุพระพุทธเจ้า พระองค์เป็นที่นับถือของปวงพุทธศาสนิกชนฝ่ายมหายาน มีพระประวัติในพระสูตรสันสกฤตสูตรหนึ่ง คือ พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภา ราชามูลประณิธานสูตร และ มหาปณิธาน 12 ประการ อันเป็นคุณอันวิเศษที่ผู้ใดก็ตาม ได้ครอบครองหรือบูชา “พระกริ่ง” ด้วยความเลื่อมใส หรือเอ่ยพระนาม รำลึกถึงพระองค์ จะได้รับอานิสงส์แห่งการบูชามีดังต่อไปนี้ . 1. ขอให้สรรพสัตว์จงมีวรกายดุจเดียวกับพระองค์ 2. ขอให้วรกายของพระองค์มีสีสันดุจไพฑูรย์ มีรัศมีรุ่งโรจน์โชตนาการยิ่งกว่าแสงอาทิตย์และแสงจันทร์ เพื่อส่องทางให้สัตว์ที่หลงในอบายคติพ้นไปสู่คติที่ชอบ 3. ขอให้สรรพสัตว์ได้รับโภคสมบัตินานาประการ อย่าได้มีความยากจนใดๆ 4. หากสรรพสัตว์ใดมีมิจฉาทิฐิ ขอให้พระองค์ทำให้เขาตั้งมั่นในสัมมาทิฐิในโพธิมรรค 5. หากสรรพสัตว์ใดประพฤติพรหมจรรย์ในธรรมวินัยแห่งพระองค์ขอให้อย่าได้มีศีลวิบัติ หากมีศีลวิบัติ เมื่อได้สดับพระนามแห่งพระองค์จงบริสุทธิ์บริบูรณ์ 6. หากสรรพสัตว์ใดมีรูปกายไม่งาม ผิวไม่ผ่องใส โง่เขลาเบาปัญญา ตาบอด หูหนวก เป็นใบ้ หลังค่อม สารพัดพยาธิทุกข์ต่างๆ เมื่อได้สดับพระนามแห่งพระองค์ขอให้หายและหลุดพ้นจากปวงทุกข์เหล่านั้น มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ผิวกายผ่องใส 7. ขอให้สรรพความเจ็บป่วยทั้งหลายจงหมดไป และขอให้สรรพสัตว์เป็นผู้มีกายใจอันผาสุก มีบ้านเรือนอาศัย พรั่งพร้อมด้วยธนสารสมบัติ จนที่สุดสำเร็จแก่พระโพธิญาณ 8. หากอิสตรีใดเบื่อหน่ายในเพศแห่งตน เมื่อสดับพระนามแห่งพระองค์ จักสามารถเปลี่ยนเพศจากหญิงเป็นชาย จนที่สุดสำเร็จแก่พระโพธิญาณ 9. ขอให้สัตว์ทั้งหลายหลุดพ้นจากข่ายแห่งมาร และตั้งอยู่ในสัมมาทิฐิได้ 10. หากสรรพสัตว์ใดต้องพระราชอาญา ต้องคุมขัง หรือต้องอาญาถึงประหารชีวิต ตลอดจนได้รับการดูหมิ่นดูแคลน หากเอ่ยพระนามแห่งพระองค์และอาศัยบารมีและคุณาภินิหาริย์ของพระองค์ ขอสัตว์เหล่านั้นจงหลุดพ้นจากปวงทุกข์ 11. ขอให้สัตว์ทั้งหลายบริบูรณ์ด้วยเครื่องอุปโภคบริโภค มีความอิ่มหนำสำราญ 12. ขอให้สัตว์ทั้งหลายบริบูรณ์ด้วยสรรพอาภรณ์ เครื่องประดับ ธนสารสมบัติและเครื่องบำรุงความสุขต่างๆ . ด้วยมหาปณิธานทั้ง 12 ประการนี้ เพียงเอ่ยหรือได้ยินพระนาม “พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต” หรือ “พระกริ่ง” ยิ่งได้ศรัทธา เลื่อมใส มีไว้ครอบครองบูชา จะยิ่งทำให้มีความสุข ความเจริญ รุ่งเรือง นับเป็นคุณอันวิเศษยิ่งนัก เหล่านี้คือ “บารมีแห่งพระกริ่ง” . 🔵 เมื่อเวลาเรารู้สึกดวงไม่ดี มีเคราะห์ หรือเจ็บป่วย หากท่านใดมีพระกริ่ง(องค์แทนพระพุทธเจ้าไภษัชยคุรุไวฑูรย์ประภาสพุทธเจ้า)ก็ สามารถอาราธนาบารมีของพระองค์ท่านทำน้ำพระพุทธมนต์ ดื่ม รด อาบ กินเพื่อความสวัสดี มีชัยปราศจากเคราะห์ได้นะครับ วิธีการมีดังนี้
.
🔘 วิธีทำ ให้นำน้ำมาใส่ขันหรือภาชนะใดๆๆก็ได้ หน้าองค์พระประธาน โยงสายสิญจน์จากมือพระประธานแล้ววนมายังน้ำมนต์ ส่วนหนึ่งมาไว้กับเราแบบเวลาพระสงฆ์ทำน้ำมนต์ แล้วจุดธูปเทียน บูชาพระรัตนตรัย . ตั้งนโมสามจบแล้วกล่าวว่า . พุทธัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ,อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ . วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสสะธัมมะสาระถิ สัตถาเทวะมนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ. .. ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ ,สวากขาโต ภะคะวา ธัมโม . สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญู...ติ. . สังฆัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ,ปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ . อุชุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ . ญายะปฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ . สามีจิปฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ . ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสสะ ยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา . เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ . อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย . อัญชะลีกะระนีโย อะนุตตะรัง ปุญญะเขตตัง โลกัสสาติ. . แล้วนำเอาธูปปักที่กระถางธูปแล้วสวดพระคาถา อุณหิสวิชัย ๓ จบ ดังนี้ . อัตถิ อุณหิสสะ วิชะโย ธัมโมโลเก อะนุตะโร . สัพพะ สัตตะ หิตัตถายะ ตัง ตวัง คัณหาหิ เทวะเต . ปะริวัชเช ราชะทัณเฑ อะมะนุสเสหิ ปาวะเก . พยัคเฆ นาเค วิเสภูเต อะกาละ มะระ เณนะวา . สัพพัสมา มะระณา โหตุ เทโว สุขี สะทา สุทธะสีลัง . สะมาทายะ ธัมมัง สุจะริตัง จะเร ตัสเสวะ . อานุภา...ะ โหตุ เทโว สุขี สะทา ลิกขิตัง จินติตัง . ปูชัง ธาระณัง วาจะนังคะรุง ปะเรสัง เทสะนัง . สุตวา ตัสสะ อายุ ปะวัฑฒะ ตีติ
. หากจะอาราธนาพระกริ่งทำน้ำมนต์อธิษฐานให้ใครก็เอ่ยชื่อคนนั้นครับ . เสร็จแล้วนำเอาพระกริ่งมาไว้ในมือตั้งนโม ๓จบแล้วสวดพระนามองค์พระไภษัชยคุรุไวฑูรย์ประภาสพุทธเจ้าดังนี้ . โอม นะโม ภะคะวะเต ไภษัชยะ คุรุ ไวฑูรยะ ประภา ราชายะ ตะถาคะตายะ อะระหะเต สัมมะยักกะ สัมพุทธายะ ตัถยะถา โอม ไภษัชเย ไภษัชเย ไภษัชเย สมุทะคะเต สะวาหะ(สะ-หวา-หะ) ๙จบ . แล้วนำเอาองค์พระกริ่งใส่ลงไปในน้ำมนต์ให้อยู่กึ่งกลางภาชนะ แล้วจับสายสิญจน์สวดดังนี้ . ภัน เต ภควา ข้าแต่องค์สมเด็จพระสรรเพ็ชญ์พุทธเจ้า ผู้ทรงพรอันประเสริฐ พระผู้ประทานพรอันศักดิ์สิทธิ์ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมฉัน ขอพระราชทานให้องค์สมเด็จพระสรรเพ็ชญ์ดาญาณพุทธเจ้าผุ้ทรงมีพระมหา กรุณาธิคุณโปรดทรงปราณีแก่หม่อมฉัน . ขอสมเด็จพระพุทธองค์ทรงแสดงพุทธานุภาพอันเรืองฤทธิ์ประสิทธิ์พร้อมไปด้วย พุทธฉัพพัณณรังสีพุทธรัศมีโอภาสสว่างไสว ใหญ่ยิ่งด้วยดวงอาทิตย์ยามเที่ยงวันดังดวงจันทร์วันเพ็ญยามเที่ยงคืน ให้เกิดปรากฏการณ์แก่เกล้าหม่อมฉัน ในวาสนาบารมีที่เกล้าหม่อมฉันสร้างมา . ให้เกล้าหม่อมฉันประสพพบในพุทธโอภาส สว่างไสวในจักขุญาณ โสตญาณ มาณญาณ ชิวหาญาณ กายญาณ มโนญาณ ให้เกิดแก่เกล้าหม่อมฉัน และขอให้เกล้าหม่อฉันปราศจากทุกข์โศก โรคภัย และปราศจากอุปัททวัญตรายชนะศัตรูหมู่มารภัยพาลสันดานหยาบทั้งแปดทิศ . ด้วยวาสนาบุญญฤทธิ์ที่เกล้าหม่อมฉันสร้างมา ตลอดทั้งทรัพย์สินเงินตราของเกล้าหม่อมฉันที่สูญหายไป มีโภคทรัพย์ภายนอกและอริยทรัพย์ภายใน สุขสรรเสริญ สันติสุขอันใดหายไป ขอพระบารมีให้ไหลคืนมาดังมหาสมุทรทั้ง๘ทิศ ด้วยวาสนาบุญญฤทธิ์ของหม่อมฉัน ที่ได้ตั้งจิตคิดขอพระพรมา โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมฉันด้วย . นะอะหัง พุทโธนะ นะโลกะวิทู นะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ นะมะอะอุ อิกะมะนะ พุทธะชีวิตตัง นะมะพะทะ . เป็นอันเสร็จพิธีให้กล่าวนโม๓จบ . เสสัง มังคะลัง ยาจามิ ข้าพระพุทธเจ้าขอคืนเศษเหลือน้ำทิพย์อันเป็นมงคลนี้ แล้วอาราธาองค์พระกริ่งขึ้นจากน้ำแล้วนำน้ำนั้นไปใช้ผสมรด อาบ กิน สะเดาะเคราะห์ต่อชะตา รักษาโรคภัยไข้เจ็บ และเจริญด้วยสิริอายุ วรรณะพละแล้วแต่เราขอจากน้ำมนต์เถิด . 🔵 หมาย เหตุ ตำรานี้สมเด็จพระสังฆราชแพได้รับถ่ายทอดจากสมเด็จพระปวเรศสมเด็จพระสังฆราช เจ้าได้อาราธนาพระกริ่งทำน้ำมนต์ให้สมเด็จพระวันรัตฉัน เพียงครั้งเดียว อหิวาตกโรคในสมเด็จพระวันรัตก็หายไปสิ้น ท่านอาจารย์อุรคินทร์ วิริยะบูรณะได้รับพระเมตตาจากสมเด็จพระสังฆราชแพบอกกล่าววิธีนี้ไว้และได้นำ มารวบรวมไว้ในตำรา
Comments