⭕️ ทุกท่านรู้จักธรรมยุตินิกาย แต่จะมีใครสักกี่คนที่จะรู้ว่า :
- สมเกียรติ์ ศรีพธูราษฎร์
- Apr 26, 2020
- 1 min read
ธรรมยุติกนิกาย คือพุทธศาสนาแนวสัจนิยม

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยกับสมเด็จพระศรีสุริเยนทรา บรมราชินี เสด็จพระราชสมภพในปีพ.ศ. ๒๓๔๗ ครั้นพระชนมายุ ๒๐ พรรษา ได้ทรงผนวช ทรงพระนามว่า พระวชิรญาณเถระ และเสด็จไปจำพรรษา ณ วัดสมอราย (วัดราชาธิวาส) แต่เมื่อทรงผนวชได้ ๑๕ วัน พระบรมชนกนาถเสด็จสวรรคต พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงขึ้นครองราชย์ พระองค์จึงทรงอยู่ในสมณเพศต่อมาถึง ๒๗ พรรษา

ในระหว่างที่ทรงผนวชอยู่นั้น ได้ทรงเรียนรู้ภาษา และวิทยาการสมัยใหม่ทางตะวันตกจากมิชชันนารีชาวตะวันตกผู้เข้ามาเพื่อเผยแพร่คริสตศาสนาแก่ประชาชนในโลกตะวันออก เช่น ทรงเรียนภาษาละตินกับสังฆราชปาลเลอกัวซ์ ประมุขมิซซังสยามตะวันออก และยังได้ทรงศึกษาวิทยาการตะวันตกเช่น ภูมิศาสตร์ ดาราศาสตร์ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ รวมทั้งภาษาอังกฤษจากหมอสอนศาสนาชาวอเมริกัน ๓ คน ได้แก่ หมอแคสเวลล์ (Jesse Caswell) หมอบลัดเลย์ (Dan Beach Bradley) และหมอเฮาส์ (Samuel Reynolds House) อันเป็นมิตรที่ดีของพระองค์ยิ่งนัก
.
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานธรรมเทศนาให้กรมการฝ่ายในฟังในวันวิสาขบูชา (ภาพจากหนังสือ “ประชุมภาพประวัติศาสตร์แผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว”)
.
ด้วยความที่ทรงสนิทสนมกับหมอสอนศาสนาชาวตะวันตกนั้น ทำให้พระองค์ได้รับอิทธิพลทางความคิดมาจากชาวตะวันตก รวมถึงโลกทัศน์ทางวิทยาศาสตร์ ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาและสามารถพิสูจน์ได้ หรือคือแนวคิดสัจนิยมนั่นเอง
.
ประกอบกับได้ทรงเห็นถึงความหย่อนยานทางพระวินัยของพระภิกษุสงฆ์ในขณะนั้น เมื่อทรงพบกับพระสุเมธมุนี (ซาย พุทธวํโส) พระเถระแห่งรามัญนิกายที่มีข้อวัตรปฏิบัติที่น่าเลื่อมใส จึงก่อให้เกิดธรรมยุติกนิกาย อันได้รับแรงบันดาลใจมาจากรามัญนิกาย และสีหลนิกาย ที่ทรงเชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดของคณะสงฆ์นิกายเถรวาททั้งปวง ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงตามแนวความคิดของพระองค์ขึ้น ดังจะกล่าวถึงต่อไปนี้คือ
🔵การตีความพุทธธรรมใหม่ :
พระวชิรญาณเถระได้ทรงตีความพุทธธรรม พุทธวจนะใหม่ด้วยทัศนะแบบวิทยาศาสตร์ คือมองโลกด้วยความจริงที่เน้นการใช้เหตุผลและสิ่งที่สามารถประจักษ์ได้ด้วยตนเอง ให้ความสำคัญกับโลกนี้ และผลที่จะเกิดขึ้นในโลกนื้ จึงทรงเน้นคำสอนที่เป็นโลกิยธรรม เช่น ทาน ศีล เมตตา ซึ่งทำให้เกิดความสำเร็จทางโลกอันได้แก่ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณะ รวมทั้งทรัพย์สมบัติ ที่จะให้ประโยชน์สุขแก่เราในภพภูมินี้
.
ทำให้โลกุตตรธรรม ซึ่งเป็นธรรมขั้นที่เลยการรับรู้ได้ของปุถุชนธรรมดาทั่วไป เช่นการตั้งจิตปรารถนาพระนิพพาน ปรารภพุทธภูมิ ที่พระมหากษัตริย์ในอดีตทรงเห็นว่าเป็นสิ่งที่ปุถุชนทั่วไปควรหวัง และสามารถเข้าถึงได้ค่อยๆ หายไปจากคำสอนของพระองค์ที่ทรงมีต่อพุทธศาสนิกชนทั่วไป ดังจะเห็นตัวอย่างหลักคำสอนด้านโลกุตตรธรรมของสมเด็จพระบูรพมหากษัตริย์ไทยได้จาก พุทธศาสนาไทยในอนาคต แนวโน้มและทางออกจากวิกฤต โดย พระไพศาล วิสาโล ความว่า
.
“…ยังมีอิทธิพลในความคิดของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว แม้ในหมายรับสั่งประกาศสงกรานต์ ซึ่งทรงมีถึงประชาชนทั่วไป ก็ทรงแนะแนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรว่า
.
“ผู้มีปัญญาให้รำพึงดูสิ่งใดเปนฝักฝ่าย บาปกำม์แลอกุศลกำม์ละวางเสีย สิ่งใดที่เปนกุศลให้อุสาหะ ปรนิบัติไปตามสติปัญญา กว่าวาศนาบารมีจแก่ขึ้น ก็จะปลงลงเห็นพระไตรลักษณญาณ คือทุกขัง อนิจจัง อนัตตา แล้วก็บ่ายหน้าไปสู่พระนิพพาน” (จาก พุทธธรรมที่เป็นรากฐานสังคมไทย ก่อนสมัยสุโขทัยถึงก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง โดย สุภาพรรณ ณ บางช้าง)
.
และการใช้ทัศนะและการให้เหตุผลทางวิทยาศาสตร์นี่เอง ที่ทำให้อิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ถูกตัดไปจากพุทธศาสนาด้วย ทั้งยังดึงพระพุทธเจ้าให้ทรงใกล้ชิดกับมนุษย์มากขึ้น อันเป็นมูลเหตุให้เกิดพุทธศิลป์แนวใหม่ขึ้น

⚫️ก่อกำเนิดพุทธศิลป์แนวใหม่ :
.
พระนิรันตราย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดให้หล่อขึ้นด้วยทองคำเพื่อสวมทับพระนิรันตรายองค์เดิม ซึ่งทรงได้มาจากดงพระศรีมหาโพธิ เมืองปราจีนบุรี (ภาพจากหนังสือ “พระพุทธปฏิมาในพระบรมมหาราชวัง”)
อีกสิ่งหนึ่งที่นับได้ว่าเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนได้แก่พุทธลักษณะของพระพุทธรูป อันพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังยังทรงเป็นพระวชิรญาณเถระได้ทรงค้นคว้าพระอรรถกถาบาลีเพื่อหาพุทธลักษณะและขนาดพระวรกายของพระพุทธเจ้าที่แท้จริง ทำให้พระวชิรญาณเถระได้ทรงสร้างพระพุทธปริตรจากไม้ไผ่สาน ซึ่งเชื่อกันว่ามีขนาดของพระวรกายที่คล้ายคลึงกับพระพุทธเจ้า และพระสัมพุทธพรรณีขึ้นในปีพ.ศ. ๒๓๗๓ ให้มีริ้วจีวรเป็นริ้วผ้าตามธรรมชาติ ตามแนวคิดสัจนิยมอันได้รับอิทธิพลจากตะวันตกและที่สำคัญคือไม่มีพระเกตุมาลา แต่ก็ยังคงรักษามหาปุริสลักษณะ ๓๒ ประการไว้อย่างครบถ้วน
.
จนเมื่อพระวชิรญาณเถระทรงขึ้นเถลิงราชสมบัติเป็นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ก็ได้ทรงสร้างพระพุทธรูปในธรรมยุติกนิกายอีกหลายองค์ แต่องค์ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างดีที่สุดคือ พระนิรันตราย อันทรงสร้างครอบพระกริ่งทองคำที่ทรงได้มาจากดงพระศรีมหาโพธิ เมืองปราจีนบุรี ซึ่งเป็นการปรับแก้พุทธลักษณะในธรรมยุติกนิกายครั้งสุดท้ายในช่วงพระชนมชีพของพระองค์ กล่าวคือ ปลายพระกรรณของพระพุทธองค์เริ่มสั้นเท่ามนุษย์ปกติ และจีวรยังดูเป็นธรรมชาติมากกว่าที่ปรากฏในพระพุทธสัมพรรณี
แต่จะถือว่าพุทธศิลป์ในธรรมยุติกนิกายนั้นได้รับอิทธิพลมาจากตะวันตกทั้งหมดเลยมิได้ เพราะมหาปุริสลักษณะ อันเป็นความเชื่อของอินเดียที่ว่าด้วยลักษณะของมหาบุรุษนั้นก็ยังคงอยู่
.
และอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นพระราชนิยมของพระองค์คือ ทรงฟื้นฟูเจดีย์ทรงลังกา ดังจะเห็นตัวอย่างได้จากพระเจดีย์ประธานวัดบวรนิเวศ เพราะทรงถือว่าพระเจดีย์ทรงลังกานั้นเป็นเจดีย์ที่มีการสร้างมาแต่ครั้งแรกประดิษฐานพระพุทธศาสนา ณ ลังกาทวีป อันเป็นเจดีย์ที่มีความถูกต้องมากกว่าเจดีย์รูปแบบอื่นในทัศนะของพระองค์
.
จะเห็นได้ว่าการเข้ามาของวิทยาศาสตร์ รวมถึงแนวคิดสัจนิยมที่เข้ามาในสยามพร้อมกับมิชชันนารีชาวตะวันตกนั้น ได้มีอิทธิพลทางความคิดของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งยังทรงเป็นพระวชิรญาณเถระ จนเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดธรรมยุติกนิกายขึ้นจนถึงทุกวันนี้
.
ข้อมูลจาก นิตยสาร ศิลปวัฒนธรรม : โดย อภิภัทร อังสนันท์ วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ.2562
🔶เมื่อภิกษุพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงรับอุปสมบท ในคณะสงฆ์รามัญนิกายสีมากัลยาณี และเสด็จมาประทับอยู่ที่วัดมหาธาตุ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับปรุงแก้ไขข้อวัตรปฏิบัติของภิกษุสงฆ์ไทย เป็นเหตุให้มีภิกษุอื่นเกิดความเลื่อมใสพากันมาถวายตัวเป็นศิษย์ เพื่อเล่าเรียนพระปริยัติธรรมและประพฤติปฏิบัติตามแนวพระราชดำริราว ๕-๖ รูป อาทิ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ สมเด็จพระสังฆราช (สา ปุสฺสเทโว) สมเด็จพระวันรัต (ทับ พุทฺธสิริ) เป็นต้น
.
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดสร้างขึ้นเป็นพระอารามหลวงของพระมหากษัตริย์ตามโบราณราชประเพณีว่า บนผืนแผ่นดินไทยเมืองใดเป็นเมืองหลวงจะต้องมีวัดสำคัญประจำ ๓ วัดคือ วัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ และ วัดราชประดิษฐ์ โดยจะเห็นได้ว่าที่ กรุงเก่า (พระนครศรีอยุธยา) และ สุโขทัย, สวรรคโลก, พิษณุโลก ก็มีวัดทั้ง ๓ ชื่อนี้ ประการที่สอง เพื่ออุทิศถวายแด่คณะธรรมยุตนิกายโดยเฉพาะ .
หมายเหตุ
ทฤษฎีสัจนิยม (Realism) :
สัจนิยมเป็นทฤษฎีที่ให้ความสำคัญแก่ความมีอยู่ของวัตถุว่าเป็นจริง
สัจนิยมมีความเชื่อว่าผัสสะหรือประสบการณ์มีส่วนเข้าถึงความจริงได้เช่นกัน สิ่งที่เรารู้โดยตรงจากประการณ์นั้นไม่ขึ้นอยู่กับจิตของผู้รับรู้ กล่าวคือ จิตของผู้รับรู้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบของความจริงสิ่งที่ปรากฏต่อประสาทสัมผัสของเราอย่างไร ความจริงก็เป็นอย่างนั้นไม่มีความแตกต่างระหว่างสภาพที่ปรากฎกับสภาพที่เป็นจริงอาจจะมีบางอย่างที่ประสาทสัมผัสของเรารับไม่ได้ เพราะประสาทสัมผัสของเรามีขอบเขตจำกัดในการรับรู้ บางครั้งมนุษย์ต้องสร้างเครื่องมือขึ้นมาช่วยขยายความสามารถของประสาทสัมผัสเพื่อให้รู้ความจริงได้มากขึ้น เช่น แว่นขยาย กล้องจุลทรรศน์ เป็นต้น
Comments