top of page

#ข้าวตอกแตก( Popcorn อีสาน)ทำไม...?

  • Writer: สมเกียรติ์ ศรีพธูราษฎร์
    สมเกียรติ์ ศรีพธูราษฎร์
  • Apr 28, 2020
  • 2 min read

กลายเป็นพระปิดตาอันโด่งดังของหลวงปู่เอี่ยม (เจ้าคุณเฒ่า) !




#พระปิดตาพิมพ์ข้าวตอกแตก#หลวงปู่เอี่ยม(เจ้าคุณเฒ่า) ทำไมเรียกว่าข้าวตอกแตกคืออะไร ?


⭕️ ข้าวตอกแตก ก็ได้การเอา ข้าวเปลือก ตากแห้ง มาคั่วด้วยไฟแรงๆ พอข้าวเปลือกถูกความร้อน ก็จะปะทุดันให้เปลือกข้าวแตกออก เหลือแต่เนื้อในสีขาวเนื้อพอง รับประทานได้ เรียกว่า ข้าวตอกแตก

.

พระปิดตา พิมพ์ข้าวตอกแตก หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง หนึ่งในเกจิที่สร้างพระปิดตาเบญจภาคีพระปิดตา ที่ขลังมาก หายากมาก ! หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง พระอาจารย์ของท่านคือ หลวงปู่รอด วัดนางนอง ซึ่งแก่กล้าด้านวิปัสสนาธุระ และพุทธาคม




🔴พระภาวนาโกศล (หลวงปู่รอด) วัดโคนอน :


พระภาวนาโกศล (หลวงปู่รอด) วัดโคนอน ในยุคของการสถาปนาวัดหนัง ราชวรวิหาร พระอารามหลวง รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ และเป็นพระเถระผู้เชี่ยวชาญในด้านวิปัสสนาธุระที่สำคัญรูปหนึ่ง ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นพระผู้เรืองในพุทธาคม สรรพวิทยาคมต่างๆ เมื่ออยู่วัดหนัง ราชวรวิหาร อยู่หมู่กุฏิสงฆ์คณะสระ ครั้นเมื่อ พระนิโรธรังสี ถึงแก่มรณภาพแล้ว ท่านได้รักษาการเจ้าอาวาสอยู่ชั่วระยะหนึ่ง ภายหลังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็น เจ้าอาวาสวัดนางนอง วรวิหาร และพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในพระราชทินนามที่ “พระภาวนาโกศล” โดยมี พระภาวนาโกศล (หลวงปู่เอี่ยม สุวณฺณสโร) เป็นกำลังอันสำคัญคอยดูแลเอาใจใส่ในทุกด้าน หลวงปู่เอี่ยมจึงเป็นที่ไว้วางใจและได้รับการถ่ายทอดพุทธาคม สรรพวิทยาคมต่างๆ จากหลวงปู่รอดจนหมดสิ้น . สำหรับมูลเหตุแห่งการย้ายไปอยู่วัดโคนอนนั้น ในสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ พระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานผ้าพระกฐิน ณ วัดนางนอง วรวิหาร เล่ากันว่า หลวงปู่รอดไม่ยอมถวายอดิเรก นับเป็นความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เพราะเมื่อพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงถวายผ้าไตรเสร็จสิ้นแล้ว พระสงฆ์ต้องถวายอดิเรกตามธรรมเนียมพระราชประเพณี แม้หลวงปู่เอี่ยมซึ่งขณะนั้นยังเป็นพระปลัด ได้เตือนให้ถวายอดิเรกแล้ว แต่ท่านก็ยังนิ่งเฉยเสีย เป็นที่โจษจันกันมากว่า พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงกริ้วมาก เสด็จออกมานอกพระอุโบสถทันที แล้วทรงตรัสด้วยพระสุรเสียงอันดังว่า “เขาถอดยศเราๆ”


ต่อมาอีกไม่นาน ก็ได้มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ถอดพระภาวนาโกศล (หลวงปู่รอด) ออกจากสมณศักดิ์ ในฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และเรียกพัดยศคืน หลวงปู่รอดท่านจึงได้ย้ายกลับไปอยู่วัดบ้านเกิดที่ห่างไกลจากความเจริญ คือ วัดโคนอน ในขณะนั้นหลวงปู่เอี่ยมท่านบวชได้ ๑๖ พรรษา ในฐานะศิษย์ผู้ใกล้ชิด จึงได้ย้ายจากวัดนางนอง วรวิหาร ติดตามไปคอยปรนนิบัติรับใช้พระอาจารย์ของท่าน ณ วัดโคนอน สำนักใหม่ อย่างไม่ลดละ แสดงให้เห็นถึงความกตัญญูรู้คุณ และน้ำใจอันประเสริฐต่อผู้เป็นพระอาจารย์ แม้ในยามถูกราชภัย ถูกถอดสมณศักดิ์ลงเป็นขรัวตาธรรมดา ต้องตกทุกข์ได้ยาก อับวาสนา ก็ไม่ยอมตีตัวออกห่าง ยังติดตามไปคอยปรนนิบัติรับใช้อย่างใกล้ชิด


นับว่าเป็นคุณธรรมที่ปรากฏเล่าขานสรรเสริญกันมาจนทุกวันนี้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลวงปู่รอดจะประสิทธิ์ประสาทสรรพวิทยาการนานาประการให้กับหลวงปู่เอี่ยมจนสิ้นภูมิความรู้ที่มี




🔵หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง :


วัตรปฏิบัติและความแก่กล้าพุทธาคมของ หลวงปู่เอี่ยม นี้ เป็นที่เชื่อถือศรัทธาของ รัชกาลที่ ๕ ซึ่งโปรดปราน หลวงปู่เอี่ยม มาก รับสั่งให้เข้าวังบ่อยๆ ตอนที่กล้องถ่ายรูปเข้ามาสยาม เป็นของใหม่ที่เศรษฐีคหบดีขุนนางนิยม รัชกาลที่ ๕ ก็เสด็จฯไปวัดหนัง เพื่อถ่ายรูป หลวงปู่เอี่ยม ด้วยฝีพระหัตถ์ เมื่อ พ.ศ.๒๔๔๘

.

สำหรับ พระปิดตา หลวงปู่เอี่ยม ยุคแรกๆ สร้างตั้งแต่ยังอยู่วัดโคนอน คือ พระปิดตาไม้แกะ อุดชันนะโรง แต่หลังจากนั้น ไทยเกิดปัญหา ร.ศ.๑๑๒ (พ.ศ.๒๔๓๖) ที่ฝรั่งเศสเอาเรือรบมาจอดปากอ่าว ข่มขู่ให้ไทยยกดินแดนให้ คนไทยจึงแตกตื่นกลัวภัยสงคราม แห่ไปขอวัตถุมงคลจากพระเกจิที่นับถือ รวมทั้ง หลวงปู่เอี่ยม ท่านจึงสร้างเนื้อโลหะแจกกระหน่ำ มีเนื้อสำริด เนื้อตะกั่ว




การสร้างพระปิดตา ข้าวตอกแตกเนื้อตะกั่วนั้น ข้าวตอกแตก คือการเอาข้าวเปลือก ตากแห้ง มาคั่วด้วยไฟแรงๆ พอข้าวเปลือกถูกความร้อน ก็จะปะทุดันให้เปลือกข้าวแตกออก เหลือแต่เนื้อในสีขาวเนื้อพอง รับประทานได้ เรียกว่า “ข้าวตอกแตก” หลวงปู่เอี่ยม ท่านจะนำตะกั่วถ้ำชา ซึ่งเป็นตะกั่วที่ห่อใบชาจากเมืองจีน(สีคล้ำๆ) เป็นวัสดุในการสร้าง หลวงปู่เอี่ยม ท่านจะทำการลงเหล็กจาร ประจุพลังลงไปในแผ่นตะกั่วแล้วรีดหลอมออกมาเป็นแผ่น จากนั้นก็ลงเหล็กจาร รีดหลอม ทำซ้ำๆ อย่างนี้หลายต่อหลายรอบจนท่านเห็นว่าดีแล้ว จากนั้นก็ทำการหล่อหลอมออกมาเป็นพระปิดตา นำพระปิดตาทั้งหมดมาใส่ไว้ในบาตร กำหนดสมาธิจิตบริกรรมคาถาพระเวทย์จนองค์พระปิดตากระแทกกับบาตรกระทั่งเกิดเสียงกระทบราวกับเสียงที่เกิดขึ้นในขณะที่คั่วข้าวตอก จึงเป็นที่มาของชื่อเรียก “ปิดตาข้าวตอกแตก”




⚫️ ข้าวตอกแตก :


โดยในธรรมเนียมโบราณของอินเดียนั้น เมื่อรับเสด็จพระเจ้าแผ่นดิน ก็จะโปรยข้าวตอกดอกไม้ตามทาง หรือในสมัยสุโขทัยก็ปรากฏหลักฐานในไตรภูมิพระร่วง ว่าในสมัยสุโขทัยได้ใช้ข้าวตอกเป็นเครื่องบูชา

.

อันที่จริงแล้วข้าวตอกมีลักษณะคล้ายดอกไม้อยู่เหมือนกัน อาจารย์ ส. พลายน้อย ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมในเรื่องนี้ไว้ว่า น่าจะเป็นดอกมะลิมากกว่าดอกไม้อย่างอื่น ชาวอัสสัมหรือไทยอาหมจึงเรียกดอกมะลิว่า “ม็อกเข่าแต๊ก” หรือดอกข้าวตอก

.

เนื้อความในพระไตรปิฎกส่วนที่ว่าด้วยพระสุตตันตปิฎก บทปรินิพพานสูตร กล่าวคือ ดอกมณฑารพ :

.

ซึ่งเป็นดอกไม้บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีความสวยงามและมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ เมื่อถึงกาลเวลาที่ดอกมณฑารพจะบาน และร่วงหล่นก็ด้วยเหตุการณ์สำคัญๆ คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน จารุรงคสันนิบาต และทรงแสดงธรรมจักรกัปวัตนสูตร ดอกมณฑารพจึงได้ร่วงหล่นลงมายังโลกมนุษย์ ครั้งเมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเสด็จดับขันปรินิพพาน ดอกมณฑารพนี้ก็ได้ร่วงหล่นลงมาทั้งก้านและกิ่ง เปรียบเสมือนความเสียอกเสียใจพิไรรำพันต่อการเสด็จดับขันปรินิพพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เหล่าพระภิกษุผู้ได้ชื่อว่าอรหันตขีนาสพและหมู่เหล่าข้าราชการบริพารประชาชนทั้งหลายได้พากันมาถวายสักการะพระบรมศพของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

.

เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระปัญญาธิคุณ พระกรุณาธิคุณ และพระบริสุทธิคุณ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงได้พากันนำเอาข้าวตอกมาสักการบูชา เพราะถือว่าข้าว เป็นสิ่งที่มีคุณค่าและเป็นของสูงที่มนุษย์จะขาดไม่ได้และต่อมามีการนำมา ประดิษฐ์ตกแต่งเป็นมาลัยที่สวยงาม เป็นที่มาของ “มาลัยข้าวตอก”เป็น ประเพณี ที่อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร




🔴เจ้าคุณผล (พระสุนทรศีลสมาจารย์ ) วัดหนัง :


เจ้าคุณผล(พระสุนทรศีลสมาจารย์) วัดหนัง บางขุนเทียน ธนบุรี เป็นศิษย์เอกทายาทพุทธาคมของ หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง เจ้าคุณผล เกิดวันจันทร์ที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๔๓๗ อุปสมบทที่วัดหนัง วันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๔๕๘ โดยมีพระภาวนาโกศลเถระ (หลวงปู่เอี่ยม) เป็นพระอุปัชฌาย์

.

เจ้าคุณผล ได้ศึกษาวิชาอาคมต่างๆ จาก หลวงปู่เอี่ยม นอกจากนี้ท่านยังได้ขออนุญาตหลวงปู่เอี่ยมออกธุดงค์ไปที่ต่างๆ อยู่เสมอ และหลังจากหลวงปู่เอี่ยมมรณภาพแล้ว ท่านเจ้าคุณวิเชียรกวี เป็นเจ้าอาวาสสืบแทน จนถึงปี พ.ศ.๒๕๐๓ ท่านเจ้าคุณวิเชียรก็มรณภาพอีกเจ้าคุณผล ท่านจึงได้เป็นเจ้าอาวาสสืบต่อมา

.

เรื่องราวเล่าขาน จากปาก นายถม ทองอู๋ เป็นหลานชายแท้ๆ ของหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง เกี่ยวกับอภินิหาร ,ประสบการณ์ต่างๆ ตลอดจน การสร้างวัตถุมงคลของหลวงปู่เอี่ยมก็มาจาก นายถมผู้นี้ เพราะนาย ถมเป็นผู้ช่วย ในการหล่อพระ หลายคราว รวมทั้ง นายถมผู้นี้เองที่ หลวงปู่เอี่ยมได้สอนวิทยาคมการเก็บหมากทุยให้กับ นายถม ไปเป็นผู้ เก็บ ทลายของ ลูกหมากตายพรายยืนต้น ในยุค นั้น เพื่อมาสร้างเป็น "หมากทุย" ซึ่ง เครื่องรางของขลัง ที่มีความโดดเด่นมาก ในเรื่อง คงกระพันชาตรี และ นายถม ยังเป็น ผู้ที่ ช่วยหลวงปู่เอี่ยม ในการจารตะกรุดให้ ก่อนที่ หลวงปู่เอี่ยมจะปลุกเสกอีกครั้ง ในวัยเด็ก

.

นายถม ทองอู๋ เล่าว่า เมื่อคราวที่หลวงปู่เอี่ยมสิ้นใหม่ๆ เขาได้นำคัมภีร์ของหลวงปู่เอียมที่ท่านได้ประสิทธิ์ประสาทให้แก่เขามาถวายให้เจ้าคุณผล และขอให้ท่านศึกษาถอดแบบของหลวงปู่ไว้ให้ได้ทั้งหมด




⭕️พระปิดตาข้าวตอกแตกเจ้าคุณผล เนื้อตะกั่ว(หลังจาร)วัดหนังปี ๒๕๐๙ :


พระปิดตาข้าวตอกแตกเจ้าคุณผล วัดหนังปี ๒๕๐๙ การสร้างพระปิดตารุ่นนี้ ได้เอาพิมพ์พระเครื่องของหลวงปู่เอี่ยม มาเป็นแม่พิมพ์ ส่วนผสมก็เอาเนื้อตะกั่วและเศษตะกั่วที่เหลือจากการทำพระของหลวงปู่เอี่ยม มาเป็นเชื้อชนวนเอามาเป็นส่วนผสม กับตะกั่วสังฆวานร ตะกั่ว ดีบุก ปรอท เคี่ยวรวมกันแล้วหยอดลงในเบ้าแม่พิมพ์ ฉะนั้น พระรุ่นนี้เนื้อจึงออกดำกว่าทุกๆรุ่น เท่าที่เคยพบเห็นมาอาจจะเป็นเพราะได้เนื้อตะกั่วพระของหลวงปู่เม่ามาผสมมาก พระปิดตารุ่นนี้ เป็นพระรุ่นแรก หรือ พระรุ่น ๑ ในการสร้างพระเครื่องของหลวงพ่อผล นับตั้งแต่ท่านได้เล่นเรียนและถ่ายทอดวิชามาจากหลวงปู่เอี่ยมหรือ จะเรียกว่าเป็นการสร้างพระครั้งแรกในชีวิตของท่าน พระรุ่นนี้สร้างไม่มากเท่าไรนัก เพราะสมัยนั้นหาซื้อตะกั่วที่จะมาเป็นอุปกรณ์ในการสร้างพระได้ยาก ประมาณอายุในการสร้างปิดตานี้ อยู่ในราว ครึ่งศตวรรษเศษ ในการต่อมาลูกศิษย์และประชาชนมีความเลื่อมใสศรัทธามาขอเอาไปเป็นจำนวนมาก จนเป็นข่าวเล่าลือจวบกับสมัยนั้นทางบ้านเมืองเกิดสงครามอินโดจีน ประชาชนต้องการเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจ อยากจะได้ติดเนื้อติดตัวไว้คุ้มครองป้องกันและกำลังใจ จึงเสาะแสวงหาตามข่าวที่เล่าคือ เพราะวัดหนังมีชื่อเสียงมาตั้งแต่ครั้งหลวงเอี่ยมแล้ว จึงไม่เป็นการยากลำบากสำหรับผู้ต้องการ ต่อมาบรรดาทหารและประชาชนทั้งหลาย ต่างพากันมาขอพระของเจ้าคุณผล เป็นจำนวนมาก จนพระปิดตาพิมพ์นี้ไม่พอแจก

.

สำหรับพุทธคุณของปิดตาข้าวตอกแตกนั้น นักเลงรุ่นเก่าจนถึงยุคปัจจุบันให้การยอมรับว่าเหนียวสุดๆ ทั้งแคล้วคลาด คงกระพัน คุ้มครองป้องกันอันตรายได้อย่างแน่นอน ชื่อเสียงของหลวงพ่อผลก็โด่งดัง ในงานพุทธาภิเษกที่สำคัญมักจะมีชื่อของเจ้าคุณผล วัดหนัง ซึ่งสหธรรมิกที่เป็นรุ่นเดียวกันได้แก่ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพีล เป็นต้น งานพุทธาภิเษกสำคัญที่มีชื่อหลวงพ่อผล เช่น งานยี่สิบห้าศตวรรษ งานวัดประสาทบุญญาวาส เป็นต้น หลวงพ่อผลมรณภาพวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๓ สิริอายุรวม ๗๔ ปี

 
 
 

Comentários


bottom of page