พ ร ะ ก ริ่ ง – พ ร ะ ชั ย วั ฒ น์ ไ พ รี พิ น า ศ รุ่ น เ ม ต ต า ปี ๒ ๕ ๒ ๘.
.
ท่านเจ้าคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ทรงประทานพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ ไพรีพินาศ รุ่นเมตตา ด้วยความมีจิตเมตตาสูงส่ง พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ ไพรีพินาศ รุ่นเมตตา จึงเป็นพระไพรีพินาศ มุ่งมอบแต่ความเมตตาต่อศัตรู ไม่ได้มุ่งทำลายล้างทำให้ศัตรูและคู่แข่งแพ้พ่ายไปเองและกลับกลายเป็นมิตร
.
พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ ไพรีพินาศ รุ่นเมตตา เป็นพระชุดมูลนิธิญาณสังวร ได้จำลองพุทธรูปองค์สำคัญภายในวัดบวรทุกองค์ ร่วมทั้งพระไพรีพินาศด้วย สร้างขึ้นเมือ ปี ๒๕๒๙ ผ่านกาลเวลามาแล้ว ๓๑ ปี สร้างในรูปแบบพระกริ่ง
.
พระไพรีพินาศขึ้นเรื่องปกป้องคุ้มกันภัย และศัตรูแพ้พ่าย ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๔ จนพระองค์ทรงพระราชทานนามให้ว่า"พระไพรีพินาศ" ซึ่งพระองค์เองมีประสบกับพระองค์เองโดยตรง
.
เหมาะอย่างยิ่งที่จะมีไว้ปกป้องคุ้มภัย คู่แข่งแพ้พ่ายทุกราย จึงส่งผลการการปรับเลื่อนตำแหน่ง สอบแข่งขัน ที่ต้องการแข่งขันกับคนหลายคน เหมาะสำหรับธุรกิจการค้าที่ต้องแข่งขันกับคู่แข่ง ลองฟังประสบการณ์ของสมาชิกเรา (ท่านขอสงวนนาม)
.
ท่านเล่าให้เราฟังว่า :
.
“เมื่อปี 2558 ผมได้ขอพรพระกริ่งไพรีรุ่นเมตตา เพื่อขอทุนไปศึกษาดูงานที่ญี่ปุ่น 3 เดือน ได้รับการคัดจาก 40 คน ผมประสบผลสำเร็จอย่างคัดไม่ถึง ได้ไปดูลงสมดังหวัง ซึ่งมีผลต่อหน้าที่การงาน เมื่อเร็วๆนี้ อาราธนาพระกริ่งไพรีพินาศรุ่นเมตตา อีก 2 สัปดาห์ ต่อมาก็ได้เลื่อนตำแหน่งสำคัญในบริษัท เป็นรองหัวหน้าโรงงาน 
.
นี่เป็นอีกประการณ์ ที่เล่าไม่รู้จบ จริง ๆ ผมได้รับคำบอกเล่า ถึงความสำฤทธิ์ผลของการบูชา พระกริ่งไพรีพินาศ รุ่นเมตตาอยู่เสมอ ๆ นอกจากภัยร้ายไม่ก่ำกายแล้ว ให้ผลทางการเลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง และการแข่งขันดีเลิศ เหมือนที่จะทำให้คู่แข่งแพ้พ่ายไปทุกคราว
.
........................ O พ ร ะ ก ริ่ งไ พ รี พิ น า ศ ปี ๒ ๕ ๒ ๙ .O..............
ในปี พ.ศ. ๒๕๒๙ มูลนิธิสมเด็จพระญาณสังวร (ญสว) จัดสร้าง พระรุ่นเมตตาขึ้น โดยสร้างจำลองจากพระสำคัญในวัดบวรนิเวศวิหาร หนึ่งในนั้นก็คือ พระกริ่งและชัยวัฒน์ ไพรีพินาศ เพื่อจัดหาทุนดำเนินการของมูลนิธิและเพื่อหาทุนสงเคราะห์พระภิกษุสามเณรอาพาธ รวมทั้งเพื่อการศึกษาพระปริยัติธรรมพระภิกษุและสามเณร
.
พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ไพรีพินาศรุ่นเมตตา พ.ศ. ๒๕๒๙ วัดบวรนิเวศวิหาร เทหล่อจากชนวนพระกริ่งเก่า ชนวนพระเก่าวัดบวรฯ หลายรุ่นผสมกับชนวนพระกริ่งอโยธยาและตะกรุดทองแดงของหลวงปู่เทียม วัดกษัตริยาธิราช มีจำนวนสร้างเพียง ๒๕๒๙ ชุด 
.
สุดยอดชนวนสายวัดบวร :
.
ชนวนพระกริ่งบวรรังสี ปี ๒๕๒๘, 
ชนวน พระกริ่งปวเรศ รุ่นแรก, 
ชนวน พระกริ่งไพรีพินาศ รุ่นแรก ปี ๒๔๙๕ 
ชนวนเก่าของวัดบวรนิเวศวิหาร 
.
สมเด็จพระญาณสังวร เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์และพิธีพุทธาภิเษก ได้อธิษฐานจิตยาวนานกว่า ๓ ชั่วโมง ตลอดพิธี พระคณาจารย์ร่วมจารแผ่นยันต์และปลุกเสก ล้วนเป็นพระคณาจารย์ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังใน ปี ๒๕๒๘-๒๕๓๐
.
๑.สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
๒.หลวงปู่เริ่ม วัดจุกกะเฌอ จ.ชลบุรี 
๓.หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม จ.สิงห์บุรี 
๔.หลวงปู่เส็ง วัดบางนา ปทุมธานี 
๕.หลวงปู่ธูป วัดแค นางเลิ้ง กทม. 
๖.หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย จ.พระนครศรีอยุธยา 
๗.หลวงปู่สาย วัดบางรักใหญ่ จ.นนทบุรี 
๘.หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ จ.พระนครศรีอยุธยา 
๙.หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม ฯลฯ
.
.....................พ ร ะ ไ พ รี พิ น า ศ วั ด บ ว ร นิ เ ว ศ วิ ห า ร....................
พระพุทธรูปศิลาปิดทอง ปางประทานพร แบบนั่ง ศิลปะสุโขทัย มีการระบุมูลว่าเป็นศิลปแบบศรีวิชัย เมื่อเปรียบเทียบงานพุทธลักษณ์แล้วเห็นว่าน่าเป็นศิลปะแบบสุโขทัยมากกว่า พระเกศาขมวดเป็นเปลวเพลิง เป็นหน้ากลมรูปไข่ เป็นเอกลักษณ์ของพระศิลปะสุโขทัยไม่ใช้ศรีวิขัย
.
พระไพรีพินาศเป็นพระพุทธรูปประทับนั่งแบบวัชราสน์ (ขัดสมาธิเพชร) บนปัทมาสน์อันประกอบด้วยกลีบบัวคว่ำและกลีบบัวหงายมีเกสรบัวประดับ ทรงแสดงวรมุทรา (ปางประทานพร) โดยหงายพระหัตถ์ซ้ายวางบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาวางหงายเหนือพระชานุด้านขวา 
.
องค์พระพุทธรูปมีพระอังสากว้าง บั้นพระองค์เรียวเล็ก ครองอุตราสงค์เรียบไม่มีริ้ว ห่มเฉียงเปิดพระอังสาขวาโดยมีสังฆาฏิสั้นพาดบนพระอังสาซ้าย และมีขอบพระอุตราสงค์พาดผ่านพระกรซ้าย
.
พระพักตร์ค่อนข้างกลม พระนลาฏค่อนข้างกว้าง พระขนงโก่ง พระเนตรเหลือบต่ำ พระนาสิกโด่ง พระโอษฐ์อมยิ้ม พระกรรณยาวจรดพระอังสา ขมวดพระเกศาเป็นก้นหอย มีเกตุมาลาขนาดใหญ่ประดับด้วยเส้นพระเกศา มีรูปเปลวไฟอยู่เบื้องบน กับทั้งมีประภามณฑลอยู่เบื้องหลัง